สวัสดีครับ ในปัจจุบันแบรนด์ Alldocube ก็เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยกันอย่างต่อเนื่อง โดยหลักๆ จะเน้นตลาดแท็บเล็ตเป็นหลัก ล่าสุดก็ได้ส่ง Alldocube iPlay 30 Pro มาลุยตลาดบ้านเราอีกครั้ง แถมยังมีการอัปเกรดสเปกเครื่องให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีมากขึ้นอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลใหญ่ขึ้น, เปลี่ยนมาใช้ชิปเซ็ตระดับกลาง, กล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงขึ้นทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง และแบตเตอรี่ก็ความจุเยอะขึ้นเช่นกัน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เพราะเครื่อง iPlay 30 Pro มาอยู่ในมือของทีมงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิวกันได้เลย
สเปกเครื่องแบบคร่าวๆ ของ Alldocube iPlay 30 Pro
– น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 530 กรัม
– ตัวเครื่องพื้นผิวแบบด้านทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก
– หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD (On-cell) ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล ขนาด 10.5 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจกแบบ Gorilla Glass
– มีกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
– กล้องดิจิทัลด้านหลัง 8 ล้านพิกเซล
– ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Mediatek Helio P60
– หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G72
– หน่วยความจำแรมขนาด 6GB
– หน่วยความจำรอมขนาด 128GB พร้อมรองรับการเพิ่มการ์ดแบบ microSD ได้สูงสุด 256GB
– ระบบปฏิบัติการ Android 10
– รองรับ Dual 4G VoLTE
– รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
– มีช่องหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร
– ลำโพงคู่
– แบตเตอรี่แบบ 7000 mAh
– ราคา 5,990 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง

iPlay 30 Pro มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD (On-cell) ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล ขนาด 10.5 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจกแบบ Gorilla Glass

ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ต่างๆ

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

ด้านบนของเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่สอง

ด้านล่างของเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอกแบบคู่, ช่องเชื่อมต่อกับสาย USB Type-C สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่ และไมโครโฟน

ด้านขวาของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง กับปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

ด้านซ้ายมีถาดใส่ซิทการ์ดแบบ Hybrid slot

ด้านหลังมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
จุดขายของรุ่นนี้คืออะไร?
สำหรับจุดขายของแท็บเล็ตรุ่นนี้ก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน อีกทั้งยังอัปเกรดบางจุดให้ดีมากขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ ดีไซน์ตัวเครื่องที่เน้นในเรื่องของความบางเบา ช่วยให้พกพาได้สะดวกสบาย บวกกับหน้าจอแสดงผลที่ขยายขนาดเป็น 10.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD สำหรับรับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้เต็มตาเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นหน้าจอแบบ IPS ที่ให้สีสันค่อนข้างตรง ช่วยให้ดูภาพยนตร์ หรือเล่นเกมได้อรรถรสมากขึ้นกว่าเดิม

ไม่เพียงแค่นั้น แท็บเล็ตตัวนี้ยังมีการขยายแบตเตอรี่ให้มากกว่าเดิมเป็น 7000 mAh ทำให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน ทางด้านสเปกเครื่องแม้จะเป็นรุ่นระดับเริ่มต้น แต่ก็มีหน่วยความจำแรมมากถึง 6GB ก็ช่วยให้ใช้งานได้ไหลลื่น บวกกับหน่วยความจำภายในมากถึง 128GB และเพิ่มการ์ดแบบ microSD ได้มากถึง 256GB ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้อยู่ในราคาเพียง 5,990 บาท ก็นับว่าเป็นสเปกเครื่องที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก
อุปกรณ์มาครบเลยนะ
ทางด้านอุปกรณ์ในแพ็กเกจก็ให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์, สายชาร์จแบบ USB Type-C, คู่มือการใช้งาน และที่สำคัญคือทาง Alldocube ได้ติดฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่โรงงานเลย ซึ่งถือว่าดี เอื้อประโยชน์แก่ผู้ใช้ไม่น้อย
หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 10.5 นิ้ว
สำหรับหน้าจอแสดงผลของ iPlay20 Pro เดิมทีจะมีขนาด 10.1 นิ้ว แต่ iPlay 30 Pro มีการขยายขนาดเป็น 10.5 นิ้ว พร้อมใช้เทคโนโลยีการผลิตหน้าแบบ IPS ซึ่งเป็นหน้าจอที่แสดงสีสันค่อนข้างตรงกับที่ตาเห็น อีกทั้งยังมีความละเอียด 1920×1080 พิกเซล

จากการทดสอบก็พบว่าด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 10.5 นิ้ว ด้วยความที่มีหน้าจอแสดงผลที่กว้าง จึงทำให้รับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน อีกทั้งยังมีความคมชัดระดับ Full HD ซึ่งช่วยชมภาพยนตร์ หรือเล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลิน

อีกหนึ่งความพิเศษของหน้าจอแสดงผลรุ่นนี้ คือ มีความเที่ยงตรงของสีมากถึง 92% (Color Gamut) ยิ่งช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม หรือดูซีรี่ย์เป็นอย่างมาก
อัปเกรดชิปเซ็ตใหม่มาใช้ Helio P60 !!

ในส่วนของชิปเซ็ตนั้น iPlay 30 Pro จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Helio P60 ซึ่งทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G72 โดยมีคุณบัติสำหรับการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก เช่น การใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook หรือท่องเว็บไซต์ และสามารถเล่นเกมได้ดีมากขึ้นด้วย ซึ่งแตกต่างจาก iPlay20 Pro ที่ใช้ชิปเซ็ตระดับเริ่มต้น จึงตอบโจทย์การใช้งานได้ไม่หลากหลายนัก

ด้านการเล่นเกมก็นับว่าทำได้ดีเกินคาด เนื่องด้วย iPlay 30 Pro หันมาใช้ชิปเซ็ตระดับกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังจัดอยู่ในระดับกลางตัวล่างๆ จึงเหมาะกับการเหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลง เสียมากกว่า ส่วนการเล่นเกมนั้นก็ทำได้ดีเกินคาด ผู้เขียนแนะนำว่าให้ปรับค่ากราฟิกระดับต่ำอย่างเกม PUBG Mobile ก็พอที่จะเล่นได้อย่างเพลิดเพลินเช่นกัน
มาพร้อม RAM 6GB + ROM 128GB
Alldocube iPlay 30 Pro ถือเป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่มีแรมค่อนข้างเยอะ โดยมาพร้อมกับหน่วยความจำแรม 6GB ซึ่งเป็นหน่วยความจำแบบ LPDDR4X เป็นรุ่นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เรื่องการใช้งานคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย ใช้งานได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน ยิ่งผลานกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานได้ลื่นๆ เต็มตา เช่น เล่นเกมบอกได้เลยว่าเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงแค่นั้น iPlay 30 Pro ยังมีหน่วยความจำภายในขนาด 128GB เรียกได้ว่า การบันทึกภาพ หรือการอ่านไฟล์ต่างๆ รวดเร็วทันใจอย่างแน่นอน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดถึง 256GB อีกด้วย สามารถบันทึกไฟล์ต่างๆ ได้ตามต้องการอย่างแน่นอน ซึ่งหากเทียบกับกับราคาไม่เกิน 6,000 บาท ก็นับว่าคุ้มค่า และเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
แบตเตอรี่อึดมากๆ แต่ไม่มีชาร์จเร็วนะ!
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 7000 mAh ซึ่งถือเป็นปริมาณที่เยอะเป็นอย่างมาก ทำให้เพียงพอต่อการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน เรียกได้ว่า พก iPlay 30 Pro ติดตัวไปอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องมีชุดชาร์จให้หนักกระเป๋า ก็ใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดแต่อย่างใด

โดยจากการทดสอบด้วยการใช้งานตลอดระยะเวลา 1 วันเต็ม ไม่ว่าจะเป็น เล่นแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก, ดูคลิปบน Youtube, ถ่ายภาพ หรือท่องเว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึงการแวะเล่นเกมบ้างพอสมควร ก็พบว่าแบตเตอรี่ของ Alldocube iPlay 30 Pro อึดใช้ได้เลยทีเดียว อาจเป็นเพราะว่ารุ่นนี้มีสเปกเครื่องที่ดีในระดับเริ่มต้น จึงจัดการในส่วนของการใช้งานแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี แต่ถึงแม้จะไม่มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว จากที่ทดสอบชาร์จแบตเตอรี่ก็ถือว่าไม่ได้ช้ามากนัก ยังอยู่ในระดับที่รับได้
รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด

อีกหนึ่งจุดเด่นของ iPlay 30 Pro คือ รองรับการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด ไม่เพียงแค่นั้น ยังรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ดอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นจุดเด่นที่แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนในระดับราคานี้ยังไม่รองรับเลยก้ว่าได้
รองรับ WiFi 5GHz ด้วยนะ

อีกหนึ่งข้อดีของรุ่นนี้คือ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFI ที่คลื่นถี่ 5GHz ได้ ซึ่งประโยชน์ของการเชื่อมต่อ WiFi ที่คลื่นความถี่นี้ได้คือ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายได้ที่ระดับ 300MB ขึ้นไปได้นั่นเอง โดยจะทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไร้อาการหน่วงให้รำคาญใจอีกต่อไป
ลำโพงให้พลังเสียงเป็นอย่างไร

iPlay 30 Pro มาพร้อมกับลำโพงเสียงภายนอกแบบคู่ แต่จะไม่มีระบบเสียงให้ใช้งานแต่จากการทดสอบพบว่าพลังเสียงที่ได้นั้นดังฟังชัดเป็นอย่างมากในกรณีที่อยู่ในอาคาร หรือในห้อง ส่วนการใช้งานนอกสถานที่โล่งแจ้งพลังเสียงก็จะดรอปลงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังได้ยินชัดเจนอยู่ ส่วนมิติของเสียง หรือเสียงย่านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสียงสูง กลาง ต่ำ และเบส ก็มีให้ได้สัมผัสแต่ถือว่าน้อย นอกจากนี้ เสียงจะออกแบนๆ เสียมากกว่า แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้ เนื่องจากเป็นแท็บเล็ตในราคาย่อมเยา
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

iPlay 30 Pro ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 10 และรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด

มีบริการจาก Google ให้ใช้งานครบครัน

ปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย

รองรับการใช้งาน Google Assistant

นอกจากนี้ ยังใช้งาน GPS ได้อย่างแม่นยำ เนื่องด้วยมีเสาสัญญาณ GPS+Beidou ทำให้จับสัญญาณได้ค่อนข้างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีวิทยุในตัวให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างภาพจากกล้องดิจิทัลด้านหลัง
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ ภาพถ่ายจากโหมดปกติ ภาพถ่ายจากโหมดปกติ ภาพถ่ายจากโหมดปกติ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
สรุปผลการทดสอบของ Alldocube iPlay 30 Pro
จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิว Alldocube iPlay 30 Pro นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนในระดับราคาไม่ถึง 6,000 บาท ซึ่งจากสเปกก็มีการอัปเกรดให้ดีขึ้นหลายจุดมากๆ ทั้งการใช้ชิปเซ็ตกลาง, กล้องถ่ายภาพความละเอียดเยอะขึ้น, หน้าจอใหญ่ขึ้น และแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอีก 1000 mAh เลยทีเดียว นับว่าว้าวเป็นอย่างมาก
ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้ดี โดยจะเน้นการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก และเหมาะกับการเล่นเกมมากขึ้นกว่าเดิม, ท่องเว็บไซต์ หรือรับชมภาพยนตร์สนุกได้อย่างเพลิดเพลิน โดยไร้ซึ่งอาการหน่วงให้รำคาญใจ
นอกจากนี้ การใช้งานต่อเนื่องก็พบความร้อนสะสมภายในตัวเครื่องเล็กน้อยเท่านั้น ก็ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวๆ และด้วยความที่มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ยิ่งช่วยให้รับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างมีอรรถรสเป็นอย่างมาก
ทางด้านสเปกเครื่องก็จัดอยู่ในระดับกลาง ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม แถมยังเล่นเกมได้ดีเลยทีเดียว และอย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นว่าผู้เขียนแนะนำให้ปรับกราฟิกเริ่มต้นเป็นหลัก จึงสามารถเล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลิน ส่วนทางด้านกล้องถ่ายภาพแท็บเล็ตตัวนี้ก็จะไม่ได้เน้นมากนัก แต่ก็สามารถถ่ายภาพได้ในระดับพอแก้ขัดเท่านั้น
สำหรับท่านใดที่สนใจ iPlay 30 Pro ก็สามารถสั่งซื้อได้ที่ช่องการจัดจำหน่ายของ StepGeek ได้ที่นี่ > www.facebook.com/tabletaddictofficial ในราคาเพียง 5,990 บาท แม้จะมีราคาที่เพิ่มขึ้น แต่รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Alldocube iPlay 30 Pro
– ดีไซน์สวยจับได้ถนัดมือ และมีน้ำหนักเบา
– หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล ขนาด 10.5 นิ้ว
– สเปกเครื่องได้ดีในระดับกลาง เล่นเกมได้
– ใช้หน่วยความจำ ROM ขนาด 128GB
– ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10
– กล้องดิจิทัลถ่ายภาพได้ดี คมชัด ทั้งด้านหลัง และด้านหลัง
– รองรับ 4G LTE พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด
– มีวิทยุ FM ในตัว
– มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมรองรับชาร์จเร็ว
จุดที่ต้องพิจารณาของ Alldocube iPlay 30 Pro
– ช่องทางการจัดจำหน่ายเฉพาะออนไลน์เป็นหลัก
–สเปกเครื่องระดับกลางไม่เหมาะกับนำไปใช้งานประมวลผลระดับสูง
นำเสนอบทความโดย : StepGeek.TV