สวัสดีครับ Infinix Note 8 หากพูดถึงสมาร์ทโฟนราคาประหยัดแบรนดหนึ่งที่ทุกท่านต้องเอ่ยถึงขึ้นมาอย่างแน่นอนก็อคือแบรนด์ อินฟินิกซ์ ที่ล่าสุดพึ่งจะวางจำหน่าย อินฟินิกซ์ Note 8 เข้าสู่ตลาดไม่ถึง 5,000 บาท
เรียกได้ว่า ผลตอบรับดีเป็นเทน้ำเทท่า เนื่องด้วยรุ่นนี้มีดีไซน์ที่สวย กล้องถ่ายภาพชัด หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และแบตเตอรี่ค่อนข้างอึดมาก ทำให้เหล่าผู้ค่อนข้างถูกใจ
วันนี้ ทางทีมงาน จึงเล็งเห็นถึงข้อมูลจุดเด่นในรุ่นนี้ จึงทำบทความรวบรวม 6 จุดเด่นของ Infinix Note 8 มาให้ทุกท่านได้รับชมกัน หากพร้อมกันแล้ว ขอเชิญรับชมกันได้เลย
สเปกเครื่องแบบคร่าวๆ ของ Infinix Note 8

– ตัวเครื่องดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody พร้อมใช้เทคโนโลยี Gem Dimond
– หน้าจอแสดงผลแบบ Dual Punch Hole (IPS LCD) ความละเอียด 1640×720 พิกเซล (480nit) ขนาด 6.95 นิ้ว
– ใช้ชิปเซ็ต Helio G80
– ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G52
– หน่วยความจำแรมขนาด 6GB
– หน่วยความจำภายในขนาด 128GB รองรับการเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 256GB
– ระบบปฏิบัติการ XOS 7.1 ที่มีพื้นฐานอยู่บน Android 10
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบ Dual-Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และรองรับเทคโนโลยี AI
– กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ 3 เลนส์ (Triple-Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล + เลนส์ Portrait + เลนส์ Macro พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Sensor และไฟแฟลช LED
– รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE
– รองรับการเชื่อมต่อ WiFi ที่คลื่นความถี่ 5GHz ได้
– รองรับลำโพงเสียงแบบคู่ พร้อมระบบเสียง DTS Sound
– รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง กับระบบสแกนใบหน้า
– แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5200 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยี Dual Engine 18W และรองรับเทคโนโลยี Power Marathon Embedded ที่จะในเรื่องของการใช้งานพลังงาน ทำให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
– ราคา 4,590 บาท
1. จอไซส์ยักษ์ไร้รอยบากชมคอนเทนท์ได้เต็มตา
สำหรับหน้าจอแสดงผลของ อินฟินิกซ์ Note 8 ใช้เทคโนโลยีการผลิตหน้าแบบ Punch hole Display ซึ่งเป็นหน้าจอแสดงที่ไม่มีรอยบากอีกต่อไป อีกทั้งยังมีความละเอียด 1640×720 พิกเซล ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.95 นิ้ว ซึ่งใจปัจจุบันสมาร์ทโฟนที่หน้าจอใหญ่ขนาดนี้มีอยู่น้อยมากๆ

จากการทดสอบก็พบว่าด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Punch hole Display ขนาดใหญ่ 6.95 นิ้ว มีพื้นที่หน้าจอแสดงผลที่ค่อนข้างกว้างเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีความคมชัดระดับ HD+ ซึ่งช่วยชมภาพยนตร์ หรือเล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลิน และเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ง่ายชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเพ่งสายตา

นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของหน้าจอแสดงผลที่กว้างแล้ว ด้านความสว่าง หรือการสู้แสงก็ทำได้ดีไม่น้อย จากการทดลองใช้งานในที่โล่งแจ้ง หน้าจอก็ยังแสดงผลคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างคมชัด โดยสีสันก็ไม่ดรอปลงมาก เนื่องด้วยมีความสว่างที่ 480nit จึงสู้แสงได้ดี

ไม่เพียงแค่นั้น ในสภาวะแสงน้อย หรือการใช้งานในห้องนอนก็ทำได้ดีเยี่ยมด้วยฟังก์ชันการลดแสงสีฟ้า ก็ช่วยให้ใช้งานด้วยการเล่นเกม หรือดูซีรี่ส์สนุกๆ ก่อนนอนได้อย่างสบายดวงตา โดยเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับที่ใกล้เคียงกันถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนในราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่ให้คุณสมบัติหน้าจอมาดีเป็นอย่างมาก
2. ทำงานได้หลากหลายด้วย Helio G80

ในส่วนของชิปเซ็ตนั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Helio G80 ซึ่งทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G52 โดยมีคณบัติสำหรับการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก ไม่ได้เน้นการประมวลผลระดับสูง

จากการทดสอบผ่านแอปพลิเคชันจะได้คะแนนอยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งจะไม่สูงมากนัก เนื่องด้วยมี CPU กับ GPU ที่เน้นการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก จึงไม่เหมาะกับการนำไปใช้งานที่มีการประมวลผลระดับสูง โดยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน GeekBench 5 จะได้คะแนน 368 สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 1364 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

และเมื่อนำ อินฟินิกซ์ Note 8 มาทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยอย่าง PUBG Mobile ก็พบว่าสามารถเล่นนี้ได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้มาก เรียกได้ว่า สามารถเล่นได้เพลินๆ แบบไม่มีอาการหน่วงมาให้รบกวนเลยก็ว่าได้ บวกกับการทำร่วมกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ บอกเลยว่าเล่นเพลินเป็นอย่างมาก แต่ผู้เขียนแนะนำว่าควรปรับค่าเป็นแบบต่ำสุด เนื่องด้วยเกมนี้ใช้ทรัพยากรเครื่องค่อนข้างเยอะ หากไม่ปรับค่าให้ต่ำลงมาอาจจะเล่นแล้วมีอาการหน่วงมารบกวนได้
3. มาพร้อม RAM 6GB + ROM 128GB
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยความแรมขนาด 6GB เป็นหน่วยความจำแบบ LPDDR4X ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน สามารถช่วยตอบโจทย์การใช้งานได้ไหลลื่น สามารถใช้งานแอปพลิเคชันพร้อมๆ กันได้แบบไม่มีอาการหน่วง พร้อมทั้งมีหน่วยความจำภายในขนาด 128GB รองรับการบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้อย่างจุใจ

โดยสมาร์ทโฟนในช่วงราคาไม่เกิน 5,000 บาท Infinix Note 8 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน่วยความจำแรม กับหน่วยความจำภายในที่เยอะมากๆ ซึ่งสมาร์ทโฟนบางแบรนด์ในหลายๆ รุ่น ในท้องตลาดบ้านเรายังให้ได้ไม่เท่านี้ และไม่ต้องกังวลว่าหน่วยความจำภายใน 128GB จะเก็บข้อมูลไม่พอ เพราะสามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD เพื่อการใช้งานที่หลากหลายได้อีกด้วย
4. กล้องหลัง 3 เลนส์ 64 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพดีเกินคาด!
โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังจะเป็นแบบ 3 เลนส์ (Triple-Camera) โดยกล้องดิจิทัลตัวแรกจะมีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ซึ่งจะทำงานร่วมกับเลนส์ Protrait และเลนส์ Macro ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี AI Sensor ช่วยในเรื่องของการจับภาพวัตถุ และมีไฟแฟลช LED

ต้องบอกเลยเมื่อช่วงก่อนหน้านี้สมาร์ทโฟนที่มีราคาต่ำกว่า 5,000 บาท ส่วนใหญ่จะมีสเปกกล้องถ่ายภาพที่อยู่ในระดับเพียงแค่ถ่ายภาพได้เท่านั้น แต่กล้องถ่ายภาพด้านหลังของ Infinix Note 8 จัดสเปกกล้องมาให้คุ้มค่าเกินราคาค่าตัวเป็นอย่างมาก

โดยจากการทดสอบก็พบว่าสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพปกติ, การถ่ายภาพ Portrait หรือแม้แต่การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ก็ถ่ายภาพออกมาได้ดีไม่แพ้กัน

นอกจากจะถ่ายภาพได้ดีแล้ว ประสิทธิภาพของ AI ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน จากการทดสอบ เพียงแค่ส่องกล้องถ่ายภาพไปยังจุด หรือวัตถุที่ต้องการจะถ่าย ตัว AI ก็จะทำการปรับค่า Scene ให้แบบอัตโนมัติ และรวดเร็ว และภาพถ่ายก็คมชัด พร้อมสีสันที่สมจริง ซึ่งดูได้จากภาพตัวอย่างด้านบน

ตัวอย่างภาพจากโหมดปกติจะเห็นได้ว่ารายละเอียดต่างๆ มีความคมชัดเป็นอย่างมาก ด้านสีสัน AI ก็ปรับออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติดูไม่โอเวอร์จนเกินไป

ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยต้องบอกเลยว่า ก็ทำได้ดีเช่นกัน เนื่องด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับราคานี้ส่วนใหญ่จะถ่ายภาพแสงน้อยไม่ค่อยดีมากนัก และแสดงรายละเอียดดรอปลง แต่กลับกันภาพที่ได้จากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กลับออกมาดีคมชัด แสงต่างๆ ดูใส เรียกได้ว่า พอที่จะถ่ายภาพในสภาวะย้อนแสงได้ แต่จะไม่เหมาะกับถ่ายในที่มืดๆ เลย เนื่องด้วยเทคโนโลยีกล้องไม่ได้เอื้อให้ถ่ายภาพระดับนั้น

ส่วนการถ่ายภาพ Portrait ก็ทำได้ดี สามารถตัดขอบตัวแบบ กับฉากหลังได้อย่างเนียนตาดูเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนภาพตัดแปะแต่อย่างใด
5. มีลำโพงเสียงคู่ กับระบบเสียง DTS Sound

อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือ มาพร้อมกับลำโพงเสียงคู่ รวมพลังกับระบบเสียง DTS Sound ซึ่งเป็นฟังก์ชันสำหรับการเร่งเสียงโดยเฉพาะ สามารถเลือกโหมดให้เหมาะกับการใช้งานได้ ช่วยให้ลำโพงส่งพลังเสียงที่ดังมากขึ้นกว่าเดิม โดยจากการทดสอบด้วยการเล่นเกม หรือฟังเพลงในที่โล่งแจ้ง ก็พบกว่าสามารถขับกำลังเสียงให้ดังฟังชัดได้ และเล่นเกม หรือฟังเพลงได้อย่างเพลิดเพลิน
6. แบตเตอรี่สุดอึดใช้งานนานทั้งวัน

ทางด้านแบตเตอรี่ก็มีความจุมามากถึง 5200 mAh ซึ่งทางเราได้ทดสอบจากการนำไปใช้งานด้วยที่ประเทศฮ่องกง โดยการใช้งานเต็ม 1 วันตั้งแจ่เช้าถึงเย็นก็ได้มีการเล่นแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก, ถ่ายภาพ และเล่นเกม ก็พบว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานตั้งแต่เช้าจนถึงตอนเย็น เรียกได้ว่า แบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งานได้ประมาณ 1 วัน
สรุปส่งท้าย
ก็จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการแนะนำ 6 จุดเด่นที่น่าสนใจของ อินฟินิกซ์ Note 8 โดยจุดเด่นทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีประสิทธิภาพรอบด้านสามารถใช้งานต่างๆ ได้หลากหลาย แม้จะเป็นการเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยๆ อย่าง PUBG Mobile สามารถทำได้แบบไร้ซึ่งอาการหน่วงให้พบเจอ ถึงแม้จะต้องปรับกราฟิกต่ำสุด แต่ก็พอที่จะเล่นได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายภาพได้ดีชัดมาก พร้อมทั้งถ่ายวิดีโอได้คมชัดอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นเจ้าของได้ในราคา 4,590 บาท ซึ่งหากเทียบกับสิ่งที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ต้องบอกเลยว่า คุ้มค่าเป็นอย่างมาก
สำหรับข้อมูลในข้างต้นที่ผู้เขียนหยิบมานำเสนอเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งของ อินฟินิกซ์ Note 8 เท่านั้น! บนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์ กับสิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งสามารถอ่านได้จากรีวิว Infinix Note 8 ฉบับเต็มที่นี่ หากท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อ อินฟินิกซ์ Note 8 ได้แล้ววันนี้ในราคา 4,590 บาท (ราคาเปิดตัว) ซึ่งหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ เว็บไซต์ Lazada.com หรือสอบถามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมของ Infinix Note 8 ได้ที่นี่ สำหรับวันนี้ต้อขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : Infinix