สวัสดีครับ ล่าสุดทาง Infinix ประเทศไทย ได้ทำการประกาศเปิดจอง Infinix S5 สมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดสุดฮิตใหม่ล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Infinix S5 นั่นถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ทาง Infinix ก็มุ่งเน้น และตั้งใจในการพัฒนา Infinix S5 ด้วยการใส่สเปกเครื่องมาให้แบบไม่มีกั๊ก เช่น ขยายหน้าจอแสดงผลใหญ่ขึ้น รวมถึงเพิ่มหน่วยความจำรอมให้มากขึ้นเช่นกัน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์สำหรับตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ มากมาย ในวันนี้ทางทีมงาน StepGeek.TV ก็ได้มีโอกาสได้ไปสัมผัสเครื่องเป็นครั้งแรก พร้อมกับเก็บข้อมูลต่างๆ มาจัดทำพรีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกัน หากทุกท่านพร้อมกันแล้ว ขอเชิญทุกท่านรับชมกันได้เลย
สเปกเครื่องแบบคร่าวๆ ของ Infinix S5
– ตัวเครื่องดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody พร้อมความสวยงามแบบไล่เฉดสีได้
– หน้าจอแสดงผลแบบ Punch hole Display ความละเอียด 1600×720 พิกเซล ขนาด 6.6 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกแบบ 2.5D Glass
– ใช้ชิปเซ็ต Helio P22
– ใช่หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR Rogue GE8320
– หน่วยความจำแรมขนาด 6 GB
– หน่วยความจำภายในขนาด 128 GB
– ระบบปฏิบัติการ XOS 5.0 ที่มีพื้นฐานอยู่บน Android 9 Pie
– รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE ได้
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.6 ไมครอน และรองรับเทคโนโลยี AI Camera
– กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ 4 เลนส์ (Quad-Camera) ความละเอียด 13+8+2+QVGA ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้าง 120 องศา พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI และไฟแฟลชแบบ Quad Flash Light
– รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ WiFi ที่คลื่นความถี่ 5G ได้
– รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ กับระบบสแกนใบหน้า
– แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000 mAh
พรีวิว Infinix S5
Infinix S5 มาใจแพ็กเกจสีเขียวที่ดูแล้วสบายตา
ด้านอุปกรณ์เสริมก็มีให้ใช้งานครบครัน เช่น ฟิล์มกันรอย, อะแดปเตอร์, หูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร หรือคู่มือการใช้งาน
Infinix S5 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Infinity-O Display ความละเอียด 1600×720 พิกเซล ขนาด 6.6 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกแบบ 2.5D Glass
ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.6 ไมครอน และรองรับเทคโนโลยี AI Camera, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ
ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen
ด้านบนไม่มีฟังก์ชันใดให้ใช้งาน
ด้านล่างมีลำโพงเสียงภายนอก, ช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB, ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อกับหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านข้างทางขวามีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง
ด้านซ้ายของเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นถาดแบบ Triple-Slot
ด้านหลังมีกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ 4 เลนส์ (Quad-Camera) ความละเอียด 13+8+2+QVGA ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้าง 120 องศา พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI และไฟแฟลชแบบ Quad Flash Light
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody พร้อมลวดลายเพิ่มความสวยงามแบบไล่เฉดสีได้
เปรียบเทียบสเปก Infinix S4 กับ Infinix S5
จากข้อมูลเปรียบเทียบสเปกทั้งหมดด้านบนจะเห็นได้ว่า Infinix S5 นั้นได้รับการอัปเกรด และพัฒนาหลายส่วนเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลที่จากเดิมเป็นแบบ Infinity-V ขนาด 6.2 นิ้ว ซึ่งมีติ่งด้านบนตรงกลางหน้าจอ เปลี่ยนมาเป็นแบบ Punch hole Display แบบไร้ติ่ง หรือรอยบากอีกต่อไป โดยตัวกล้องดิจิทัลด้านหน้าจะถูกฝังไว้ที่หน้าจอ พร้อมขยายพื้นที่การแสดงผลเป็นขนาด 6.6 นิ้ว ช่วยให้ Infinix S5 สามารถแสดงผลได้เต็มพื้นที่ของหน้าจออีกด้วย ในด้านของกล้องดิจิทัลด้านหลังก็อัปเกรดมาเป็น 4 เลนส์ โดยเพื่มเลนส์ QVGA เข้ามา ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพได้คมชัดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่เพียงแค่นั้น ยังเพิ่มพื้นที่การบันทึกข้อมูลเป็น 128GB ซึ่งหากเทียบกับรุ่น S4 นับว่าเพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัว และพิเศษสุดๆ Infinix S5 เปิดราคาวางจำหน่ายมาย่อมเยากว่าเดิมเพียง 4,390 บาท เท่านั้น! เรียกได้ว่า เป็นสมาร์ทโฟนสุดคุ้มที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ นั่นเอง แต่อย่างไรก็ดี Infinix S5 นั้นไม่รองรับการรับประกันหน้าจอแตก 1 ปี
ราคา และวันวางจำหน่าย
สำหรับ Infinix S5 รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB นั้นได้เปิดราคาออกมาที่ 4,390 บาท เท่านั้น! โดยจะเปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 2-11 ธันวาคม 2562 บนเว็บไซต์ Lazada.com ซึ่งผู้ที่สั่งจอง 100 ท่านแรก จะได้รับลำโพงบลูทูธ Wireless Sound bar อีกด้วย หรือสอบถามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมของInfinix S5 ได้ที่นี่
นอกจากนี้ ยังมีประกันแบตเตอรี่เปลี่ยนฟรี 1 ครั้งใน 1 ปี (กรณีเครื่องดับเพราะแบตเสีย)ยังมีบริการรับ-ส่งเครื่อง และหากในกรณีที่เครื่องมีปัญหา ด้วยบริการจาก Kerry หากเครื่องของลูกค้ามีปัญหาก็สามารถโทรติดต่อทางศูนย์บริการของ Infinix ได้ทันที (ประกันงานซ่อมไม่เกิน 7 วันได้รับเครื่องคืน) โดยบริการรับ-ส่งนี้ทางลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ (ไม่รวมเสาร์ อาทิตย์) สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
นำเสนอบทความโดย :StepGeek.TV