โลกเราได้ก้าวเข้าสู่ยุค 5G เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบางคนก็พูดว่าในยุคความเร็ว 5G ไลฟ์สไตล์ชีวิตและการความเป็นอยู่ของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แถมยังมีการปฏิวัติหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยานยนต์ไร้คนขับ, เทคโนโลยี IoT ที่สามารถเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ต่างๆ , บ้านก็เปลี่ยนเป็น Smart Home, ภาคการเกษตรก็จะยกระดับเป็น Smart Farm และจะมีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในส่วนงานต่างๆ

รวมไปถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ก็เช่นกันก็ได้รับการเชื่อมต่อเทคโนโลยี 5G ที่สามารถส่ง-รับข้อมูลที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม, ได้รับการตอบสนองในการทำงานที่ดีขึ้น, รองรับการใช้งานของผู้คนในจำนวนมากๆ ได้และสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ซึ่งแน่นอนว่ามีอยู่หลายรุ่น หลายแบรนด์เลยแหละที่ได้ประกาศเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการทั้ง Android และ iOS
สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ที่มาพร้อมสเปกที่คุ้มค่า หน้าจอใหญ่และแบตเตอรี่อึด วันนี้ ทีมงาน StepGeek.TV จัดให้พร้อมแนะนำ 4 สมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ ราคาประหยัดไม่เกิน 10,000 บาท มาฝากเพื่อนๆ กัน ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น จะถูกใจเพื่อนกันหรือเปล่า ไปดูกันเลยจ๊ะ

อ่ะๆๆๆ ขอบอกก่อนนะว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่นใหม่ที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงแค่การแนะนำหรือเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจให้กับเพื่อนๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยนะคะ
Redmi Note 9T 5G ราคาขาย 5,990 บาท
ต้องบอกเลยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ Redmi Note 9T 5G มาพร้อมกับราคาตลาดแตกมาก ขายเพียง 5,990 บาท ที่มีราคาถูกที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยทาง Xiaomi ก็ทำเอาแบรนด์สมาร์ทโฟนหลายๆ ค่ายโกลาหลอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
มาพร้อมกับสเปกที่อย่างโหด เลือกใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U ขนาด 7 นาโนเมตร ที่มีความเร็ว 2.4GHz และมี GPU เป็น Mali-G57 ที่รองรับการใช้งาน 5G แบบ Dual SIM

Redmi Note 9T 5G มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD แบบ DotDisplay ที่มีขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2340 พิกเซล) จอรีเฟรชเรท 90Hz อัตราส่วนของจอ 19:5:9 ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 หน้าจอเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้า ที่ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องหลัง มีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 + เลนส์ Depth Camera ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์
Motorola Moto G 5G Plus ราคาขาย 9,900 บาท
Moto G 5G Plus ได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา พร้อมชูจุดเด่นในเรื่องของหน้าจอ 90Hz, ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 765 รองรับ 5G ทำงานร่วมกับหน่วยความจำแรมขนาด 8GB
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 20 วัตต์

มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดแบบ FHD+ รองรับอัตราการรีเฟรชเรท 90Hz อัตราส่วนของหน้าจอ 21:9
หน้าจอเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้าคู่ โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + เลนส์ตัวที่ 2 ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ส่วนกล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยี AI + เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล + เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

OnePlus Nord N10 5G ราคาขาย 9,990 บาท
OnePlus Nord N10 5G เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟน 5G ที่ได้ประกาศเปิดตัวที่ประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา ที่มาพร้อมกับหน้าจอรีเฟรชเรท 90Hz, กล้องหลัง 4 ตัวและรองรับการชาร์จเร็ว Warp Charge 30T
OnePlus Nord N10 5G นั้น มีจุดเด่นในการขายอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่มีค่ารีเฟรชเรท 90Hz โดยทางวันพลัสเองก็ได้เคลมเอาไว้ว่าจอรีเฟรชเรท 90Hz นั้นจะเร็วกว่าจอรีเฟรชเรท 60Hz ปกติถึง 50% เลยทีเดียว
ใช้ชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด Snapdragon 690 ของ Qualcomm ขนาด 8 นาโนเมตรและรองรับการเชื่อมต่อ 5G ที่พร้อมใช้งานในประเทศไทยได้ในทันทีหลังจากที่แกะกล่อง

หน้าจอ LCD ขนาด 6.49 นิ้ว ความละเอียด FHD+, RAM 6GB, ROM 128GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 512GB, แบตเตอรี่ขนาด 4,300 mAh รองรับการชาร์จเร็ว Warp Charge 30T โดยชาร์จผ่านพอร์ต USB-C และรองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS
ส่วนกล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับระบบ EIS + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล + เลนส์ monochrome ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

realme 7 5G ราคาขาย 9,999 บาท
realme ประเทศไทยได้ประกาศเปิดตัว realme 7 5G และวางขายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา ที่พร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 800U และจอรีเฟรชเรท 120Hz ด้วยราคา 9,999 บาท
การออกแบบที่ได้รับการอัปเกรดอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ realme ขนาดใหญ่ที่ด้านหลังของตัวเครื่องที่สร้างความโดดเด่นที่ฝาหลังและได้รับเคลือบพื้นผิวแบบ Anti Glare ตัวเครื่องนั้นถือจับถนัดมือและลดการเกิดรอยนิ้วมืออีกด้วย และมีทั้งหมด 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีเงิน Flash Silver และสีน้ำเงิน Mist Blue

มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 X 1080 พิกเซล) จอรีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสของหน้าจอที่ 180Hz และอัตราส่วนของหน้าจอ 21:9, ชิปเซ็ต Dimensity 800U ของ MediaTek ที่มีโมเด็ม 5G ในตัว, หน้าจอเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้าที่ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับโหมด Beauty AI

RAM 8GB, ROM 128GB, กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล + เลนส์ monochrome ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และรองรับการถ่ายภาพในโหมดกลางคืน Nightscape Mode ที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างชัดเจนและสว่างมากขึ้น

แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว Dart Charge 30 วัตต์ โดยทาง realme ได้เคลมว่า สามารถสแตนบายได้นานถึง 25 ชั่วโมง, คุยโทรศัพท์ได้นาน 35 ชั่วโมง, ดูวีดีโอได้นานถึง 17 ชั่วโมงและเล่น PUBG ได้นานถึง 9 ชั่วโมง และรองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI

รวมถึง ถ้าหากชาร์จเบตเตอรี่ภายใน 3 นาที สามารถดูวีดีโอได้นานถึง 52 นาที, สแตนบายได้นานถึง 52 ชั่วโมงและฟังเพลงได้อีก 5 ชั่วโมง แถมยังมาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง
เป็นอย่างไรบ้างกับ 4 สมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ ในราคาประหยัด ควักเงินไม่ถึง 10,000 บาท ก็สามารถซื้อและเป็นเจ้าของได้แล้ว ซึ่งในปีนี้ 2021 เราจะได้เห็นสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่อีกหลายรุ่นเลยแหละ แต่ราคาที่วางขายนั้นจะมีราคาถูกหรือสูงแค่ไหน ต้องรอดูกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ถ้ารุ่นไหนมาพร้อมกับสเปกที่คุ้มค่าและราคาประหยัดแล้วล่ะก็…รุ่นนั้นจะได้รับความสนใจมากที่สุดและส่งผลให้มียอดขายที่ทะลุเป้าอย่างแน่นอน
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : mi