หลังจากที่ทาง ออปโป้ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno 5 และ 5 Pro เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ล่าสุด ทาง OPPO ได้ประกาศเปิดตัวอีก 1 รุ่นใหม่อย่าง ออปโป้ Reno 5 Pro+ ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดในตระกูล Reno 5 Series ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G
มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ที่มีความละเอียด FHD+ (1080 X 2400 พิกเซล) และรองรับอัตราการรีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 180Hz รวมถึงตัวจอสามารถดันความสว่างได้สูงสุด 1,100nits หน้าจอเจาะรูขนาดเล็กบริเวณด้านซ้ายมือบนหน้าจอแสดงผลสำหรับวางกล้องเซลฟี่ ที่ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว วางอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมด้านหลัง พร้อมกับไฟแฟลช LED แถมยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IMX766 โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับระบบกันสั่น OIS และรองรับระบบ PDAF + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 + เลนส์ Telephoto ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 ของ Qualcomm, RAM 8GB/12GB, ROM 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 ไม่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้, แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh รองรับการชาร์จเร็ว SuperVOOC 2.0 ที่ 65 วัตต์และรองรับการชาร์จ Reverse Charging และรองรับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11

นอกจากนี้ OPPO Reno 5 Pro+ 5G สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ในวันที่ 18 มกราคม 2021 ที่ประเทศจีนผ่านช่องทางออนไลน์ JD.com ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3,999 หยวน หรือประมาณ 18,400 บาท และพร้อมวางขายในวันที่ 22 มกราคม 2021 เป็นต้นไป
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีรุ่นพิเศษอย่าง OPPO Reno 5 Pro+ รุ่น Artist Limited Edition ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Electrochromic ที่จะวางขายเฉพาะ RAM 12GB และ ROM 256GB ในราคา 4,499 หยวน หรือประมาณ 20,700 บาท

ราคาขาย OPPO Reno 5 Pro+ 5G ในตลาดจีน
- ในรุ่น 8GB + 128GB ราคาอยู่ที่ 3,999 หยวน หรือประมาณ 18,400 บาท
- ในรุ่น 12GB + 256GB ราคาอยู่ที่ 4,499 หยวน หรือประมาณ 20,700 บาท
สเปก OPPO Reno 5 Pro+ 5G
- ขนาดตัวเครื่อง 159.9 x 72.5 x 8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 184 กรัม
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล) จอรีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 180Hz อัตราส่วนของจอ 20:9 ค่าความสว่างเริ่มต้น 500nits และสูงสุดที่ 1,100nits และรองรับ HDR10+
- ชิปเซ็ต Snapdragon 865 ขนาด 7 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุดที่ 2.84GHz
- GPU Adreno 650
- RAM 8GB/12GB
- ROM 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 ไม่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้
- กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว วางอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมด้านหลัง พร้อมกับไฟแฟลช LED แถมยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IMX766 โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับระบบกันสั่น OIS และรองรับระบบ PDAF + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 + เลนส์ Telephoto ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สามารถซูมได้ 3 เท่า + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh รองรับการชาร์จเร็ว SuperVOOC 2.0 ที่ 65 วัตต์และรองรับการชาร์จ Reverse Charging
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11
- รองรับสแกนลายนิ้วใต้หน้าจอแสดงผล
- รองรับพอร์ต USB-C
- รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA)
- รองรับ Wi-Fi 802/11 a/b/g/n/ac
- มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำและสีน้ำเงิน
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : oppo, gsmarena