หลังจากที่รอคอยกันมานานแสนนาน วันนี้ก็ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ระดับกลางอย่างที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 9 และ Redmi Note 9 Pro 5G ที่รวมไปถึง Redmi Note 9 (เวอร์ชั่น 4G) ซึ่งก็เป็นไปตามที่ข่าวหลุดออกมาก่อนหน้านี้บนเว็บไซต์ Weibo ของประเทศจีนที่โพสต์โดย Lu Weibing
แถมยังได้เห็นกล่องของ Redmi Note 9 Pro 5G ที่ได้ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ Weibo ของประเทศจีนครั้งแรก ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่มีสีสันและเป็นงานศิลปะลายการ์ตูนก่อนเปิดตัวอีกซะด้วย

พร้อมทั้งวางขายที่ประเทศจีนในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 999 หยวน หรือประมาณ 4,600 บาท
Redmi Note 9 5G
รุ่นธรรมดามาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5, ชิปเซ็ต Dimensity 800U 5G ของ MediaTek โดยทาง Xiaomi ได้เคลมว่า ชิปเซ็ต 800U นั้นเร็วกว่าชิปที่ใช้บน Redmi Note 8 ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว, RAM 6GB/8GB, ROM 128GB/256GB แบบ UFS 2.2 และรองรับการเชื่อมต่อ 5G

กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 118 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวีดีโอได้ในระดับ 1080p
แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 22.5 วัตต์, รองรับ 5G ทั้งแบบ SA/NSA ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,299 หยวน หรือประมาณ 5,900 บาท

ราคาขาย Redmi Note 9 5G
- ในรุ่น 6GB+128GB ราคาอยู่ที่ 1,299 หยวน หรือประมาณ 5,900 บาท
- ในรุ่น 8GB+128GB ราคาอยู่ที่ 1,499 หยวน หรือประมาณ 6,900 บาท
- ในรุ่น 8GB+256GB ราคาอยู่ที่ 1,699 หยวน หรือประมาณ 7,800 บาท

สเปก Redmi Note 9 5G
- ขนาดตัวเครื่อง 161.96 x77.25 x 9.20 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 200 กรัม
- หน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ต Dimensity 800U ขนาด 7 นาโนเมตร ความเร็ว 2.4GHz
- RAM 6GB/8GB
- ROM 128GB/256GB แบบ UFS 2.2
- กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 118 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวีดีโอได้ในระดับ 1080p
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 22.5 วัตต์
- รองรับพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- รองรับ 5G ทั้งแบบ SA/NSA
- มีทั้งหมด 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ, สีเขียวและสีม่วง
Redmi Note 9 Pro 5G
Redmi Note 9 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสัมผัสของหน้าจอ 240Hz หน้าจอเจาะรูตรงกึ่งกลางบนของหน้าจอสำหรับวางกล้องเซลฟี่ที่ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่องได้รับการปกป้องด้วยกระจก Gorilla Glass 5


ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 750G ของ Qualcomm และมีโมเด็ม X52 เหมือนกับชิป Snapdragon 765G, RAM 6GB/8GB, ROM 128GB/256GB แบบ UFS 2.2, แบตเตอรี่ขนาด 4,820 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ สามารถชาร์จเต็ม 100% ภายในระยะเวลา 58 นาที

กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Samsung HM2 + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้กว้าง 120 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 3 เท่า โดยไม่เสียรายละเอียดของภาพ

นอกจากนี้ จะรองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12, รองรับสแกนลายนิ้วมือด้านข้างของตัวเครื่อง โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,599 หยวน หรือประมาณ 7,400 บาท
ราคาขาย Redmi Note 9 Pro 5G
- ในรุ่น 6GB+128GB ราคาอยู่ที่ 1,599 หยวน หรือประมาณ 7,400 บาท
- ในรุ่น 8GB+128GB ราคาอยู่ที่ 1.799 หยวน หรือประมาณ 8,300 บาท
- ในรุ่น 8GB+256GB ราคาอยู่ที่ 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,300 บาท

สเปก Redmi Note 9 Pro 5G
- ขนาดตัวเครื่อง 165.4 x 76.8 x 9.0 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 214.5 กรัม
- หน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสัมผัสของหน้าจอ 240Hz ด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่องได้รับการปกป้องด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ต Snapdragon 750G ขนาด 8 นาโนเมตร ความเร็ว 2.2GHz
- RAM 6GB/8GB
- ROM 128GB/256GB
- กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Samsung HM2 + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้กว้าง 120 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 3 เท่า โดยไม่เสียรายละเอียดของภาพ
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาด 4,820 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ สามารถชาร์จเต็ม 100% ภายในระยะเวลา 58 นาที
- รองรับ 5G
- รองรับ Wi-Fi
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12
- รองรับสแกนลายนิ้วมือด้านข้างของตัวเครื่อง
Redmi Note 9 4G
เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G ที่มีราคาที่ประหยัดที่สุดในซีรี่ส์นี้เลยด้วยราคา 999 หยวน หรือประมาณ 4,600 บาทเท่านั้นเอง มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 662, RAM 4GB/6GB/8GB, ROM 128GB/256GB แบบ UFS 2.2, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ซึ่งทาง Xiaomi ได้เคลมว่าแบตเตอรี่นั้นจะสามารถใช้งานได้นาน 2 วันครึ่ง

หน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ซึ่งก็มีลักษณะคล้ายกับรุ่น 5G ที่มีความละเอียด 1080p+ จอรีเฟรชเรท 60Hz และอัตราการสัมผัสของหน้าจออยู่ที่ 180Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3 หน้าจอทรงหยดน้ำสำหรับวางกล้องเซลฟี่ ที่ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และสามารถถ่ายวีดีโอที่มีความละเอียด 1080 พิกเซล ที่ 30fps

ราคาขาย Redmi Note 9 4G
- ในรุ่น 4GB+128GB ราคาอยู่ที่ 1,000 หยวน หรือประมาณ 4,600 บาท
- ในรุ่น 6GB+128GB ราคาอยู่ที่ 1,100 หยวน หรือประมาณ 5,000 บาท
- ในรุ่น 8GB+128GB ราคาอยู่ที่ 1,300 หยวน หรือประมาณ 5,900 บาท
- ในรุ่น 8GB+256GB ราคาอยู่ที่ 1,500 หยวน หรือประมาณ 6,900 บาท
สเปก Redmi Note 9 4G
- ขนาดตัวเครื่อง 162.29 x 77.24 x 9.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 198 กรัม
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ให้ความละเอียด 1080p+ จอรีเฟรชเรท 60Hz และอัตราการสัมผัสของหน้าจออยู่ที่ 180Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3
- ชิปเซ็ต Snapdragon 662
- RAM 4GB/6GB/8GB
- ROM 128GB/256GB แบบ UFS 2.2
- กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ซึ่งทาง Xiaomi ได้เคลมว่าแบตเตอรี่นั้นจะสามารถใช้งานได้นาน 2 วันครึ่ง
- รองรับพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- มีทั้งหมด 4 สี ให้เลือก ได้แก่ สีเขียว, สีแดง, สีน้ำเงินและสีดำ

นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : gizmochina