ก่อนสิ้นปี 2020 ทาง Xiaomi ได้ประกาศเปิดตัว Redmi Note 9 Series อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีนที่รองรับ 5G ทั้ง Redmi Note 9 และ Redmi Note 9 Pro รวมไปถึง ยังมีรายงานบางสื่อได้ค้นพบข้อมูลสมาร์ทโฟน Redmi Note 9T ที่ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงาน กสทช. ของประเทศไทยแล้ว โดยมีรหัสหมายเลขรุ่น M2007J22G ที่คาดว่าเป็นรุ่น 5G เตรียมเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้

ล่าสุด Xiaomi ก็ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลาง Redmi Note 9T และ Redmi 9T อย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศไทย ด้วราคาเริ่มต้น 4,499 บาท ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับสแกนลายนิ้วที่ด้านข้างของตัวเครื่องและใช้ชิปเซ็ตที่ทรงพลังประสิทธิภาพ
Redmi Note 9T
Redmi Note 9T มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ หน้าจอรีเฟรชเรท 60Hz หน้าจอได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5, ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 800U 5G ของ MediaTek ขนาด 7 นาโนเมตร ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลัง

RAM 4GB, ROM 64GB/128GB และแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์ โดยทาง Xiaomi ได้เคลมว่าสามารถใช้งานได้นานกว่า 2 วัน ส่วนการออกแบบด้านหลังของตัวเครื่องนั้นได้รับการเคลือบนาโนที่สามารถกันละอองน้ำได้และไม่เป็นลายนิ้วมือที่ด้านหลังอีกด้วย

กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว มาพร้อมกับไฟแฟลข LED ที่วางอยู่ในทรงกลมแบบโอริโอ้ที่คล้ายกับ Redmi Note 9 5G โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับ AI Camera + เลนส์ Depth Camera ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

นอกจากนี้ พร้อมขายในวันที่ 16 มกราคม 2021 เป็นต้นไป บน JD Central เท่านั้นด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6,999 บาท และจะมีทั้งหมด 2 สีได้แก่ สีม่วงและสีดำ Night Black
ราคาขาย Redmi Note 9T
- ในรุ่น 4GB + 64GB ราคาอยู่ที่ 6,999 บาท
- ในรุ่น 4GB + 128GB ราคาอยู่ที่ 7,499 บาท

สำหรับโปรโมชั่น Early bird เริ่มตั้งแต่วันที่ 9-15 มกราคม 2021 จะได้รับของแถมพิเศษที่มูลค่า 698 บาท ไม่ว่าจะเป็น AIS THE ONE SIM 5G ที่มีมูลค่า 99 บาทและ Mi Smart Band 4C มูลค่า 599 บาท
- ในรุ่น 4GB + 64GB ราคาอยู่ที่ 5,999 บาท (จากราคาปกติ 6,999 บาท)
- ในรุ่น 4GB + 128GB ราคาอยู่ที่ 6,599 บาท (จากราคาปกติ 7,499 บาท)

สเปก Redmi Note 9T
- ขนาดตัวเครื่อง 161.96 x 77.25 x 9.05 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 199 กรัม
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ หน้าจอรีเฟรชเรท 60Hz หน้าจอได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ที่สามารถดูแลดวงตาของเราให้ดีขึ้น และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ต Dimensity 800U 5G ของ MediaTek ขนาด 7 นาโนเมตร
- GPU : Mali-G57
- RAM 4GB
- ROM 64GB/128GB แบบ UFS 2.2
- กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว มาพร้อมกับไฟแฟลข LED โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79มาพร้อมกับ AI Camera + เลนส์ Depth Camera ให้ควมละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์ (แถมหัวชาร์จ 22.5 วัตต์มาให้ในกล่อง) โดยทาง Xiaomi ได้เคลมว่าสามารถใช้งานได้นานกว่า 2 วัน
- รองรับสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างที่ฝังรวมกับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง
- รองรับพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- ลำโพงสเตอริโอแบบคู่
- รองรับ IR Blaster ที่สามารถควบคุม AloT และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
- รองรับ 5G Dual SIM
- รองรับ Bluetooth 5.1
- รองรับ NFC
- รองรับพอร์ต USB-C
- มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีม่วง Daybreak Purple และสีดำ Nightfall Black
Redmi 9T
นอกจากจะเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ไปแล้ว ก็ยังมีอีก 1 รุ่น Redmi 9T ที่รองรับ 4G มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 60Hz, ชิปเซ็ต Snapdragon 662 ของ Qualcomm ขนาด 11 นาโนเมตรและกล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่วางเรียงเป็นแนวตั้งอยู่ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 4,499 บาท และจะมีทั้งหมด 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีเทา, สีส้ม, สีน้ำเงินและสีเขียว

ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 662 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 11 นาโนเมตร, RAM 4GB/6GB, ROM 64GB/128GB สามารถเพิ่ม microSD Card สูงสุดถึง 512GB, แบตเตอรี่ 6,000 mAh สามารถใช้งานได้นาน 2.5 วัน รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์และมาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอคู่
นอกจากนี้ Redmi 9T ในรุ่น 4GB + 64GB พร้อมวางขายในวันที่ 15 มกราคม 2021 นี้เป็นต้นไป ด้วยราคา 4,499 บาท ส่วนในรุ่น 6GB + 128GB จะเริ่มวางขายในวันที่ 25 มกราคม 2021 เป็นต้นไป ด้วยราคา 5,299 บาท

สเปก Redmi 9T
- ขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 77.3 x 9.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 198 กรัม
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ หน้าจอรีเฟรชเรท 60Hz ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
- ชิปเซ็ต Snapdragon 662 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 11 นาโนเมตร
- RAM 4GB/6GB
- ROM 64GB/128GB สามารถเพิ่ม microSD Card สูงสุดถึง 512GB
- กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Depth Camera ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- แบตเตอรี่ 6,000 mAh สามารถใช้งานได้นาน 2.5 วัน รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์ (แถมหัวชาร์จ 22.5 วัตต์มาให้ในกล่อง) สามารถดูวีดีโอได้นาน 17 ชั่วโมง, ฟังเพลงได้นาน 195 ชั่วโมง, เล่นเกมได้นาน 14 ชั่วโมงและคุยโทรศัพท์ได้นาน 56.6 ชั่วโง
- รองรับสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างที่ฝังรวมกับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง
- รองรับพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- ลำโพงสเตอริโอแบบคู่
- รองรับ 4G LTE Dual SIM
- รองรับ Bluetooth 5.0
- รองรับพอร์ต USB-C
- มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเทา Carbon Gray, สีน้ำเงิน Twilight Blue, สีส้ม Sunrise Orange และสีเขียว Ocean Green
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : Xiaomi