หลังจากที่ได้รีวิว Vivo V20 Pro 5G รุ่นท็อประดับกลางไปเรียบร้อยแล้ว มาถึงคิวของรุ่นเล็กกันบ้างอย่าง Vivo V20 ที่เปิดตัวพร้อมกันเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาด้วยการดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลักที่มีการดีไซน์แบบนำสมัย มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องระดับแถวหน้า ถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างสวยงามและประสิทธิภาพการใช้งานที่ลงตัวในทุกด้าน นี่ยังไม่ได้รีวิวเลยนะ เป็นเพียงการเกริ่นนำก่อนที่จะเข้าเรื่องการรีวิว ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล V20 Series นี้มีภาพลักษณ์อันโดดเด่นที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ก้าวทันทุกความเคลื่อนไหวอย่างมีสไตล์ แน่นอนว่าการตอบโจทย์ในยุคนี้นั่นก็คือ การดีไซน์ตัวเครื่องที่มีความบางเฉียบ น้ำหนักเบาเหมาะแก่การใช้งานในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะถือไปไหนมาไหนก็สะดวกสบาย แถมกล้องทั้ง 5 ตัวก็สามารถโฟกัสได้ทุกโมเมนต์ไม่เป็นรองใคร ไม่ว่าจะแชะภาพกับเพื่อน, ครอบครัวหรือคนรู้ใจ รวมถึงการถ่ายภาพเซลฟี่ก็สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดีและมีระบบ Eye Autofocus สามารถจับโฟกัสดวงตาของคุณได้ ไม่ว่าจะไปที่ใดหรืออยู่ในโหมดอารมณ์ไหน พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI ในเรื่องการถ่ายวีดีโอก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเด่นทั้งภาพนิ่งและวีดีโอเลยแหละ

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะ ทาง Vivo เองยังทำการทดสอบข้อมูลเชิงลึกว่าผู้บริโภคต้องการอะไร?? ทำให้ Vivo นั้นได้พัฒนาสมาร์ทโฟนใตระกูล V20 Series ออกมาได้เป็นอย่างดี ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพแบบขั้นเทพ ที่ถ่ายมุมไหนก็สวยงามได้อย่างเป็นธรรมชาติทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ซึ่งแน่นอนว่าเหมาะกับคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการดีไซน์ของตัวเครื่องที่นอกเหนือจากคำว่าบางและเบาแล้ว ต้องได้รับการดีไซน์ที่หรูหราอีกด้วยและราคาที่จับต้องได้ 11,999 บาท
ซึ่งวันนี้ทีมงาน SepGeek.TV ก็กลับมารีวิวค่าย Vivo อีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้ได้นำรุ่นเล็กในตระกูล V20-Series อย่าง Vivo V20 มาแทนที่รุ่น Pro บอกได้คำเดียวเลยว่าเด็ดพอตัวเลยนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก แต่สเปกไม่เล็กนะจ๊ะ การดีไซน์ถือไปไหนก็ไม่อายใคร แถมการถ่ายภาพก็ไม่เป็นรองใคร โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเราสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักกับเจ้าตัว V20 ก็เป็นได้ เอาเป็นว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ที่จะนำมารีวิวหน้าตาตัวเครื่องจะเป็นอย่างไร สเปกนั้นจะดีแค่ไหนสามารถใช้งาน, ดูหนังหรือเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นหรือไม่ รวมไปถึงถ้าควักเงินจ่าย 11,999 บาท จะคุ้มหรือไม่คุ้มวันนี้รู้กันแน่นอน

สเปกวีโว่ V20
- ขนาดของตัวเครื่อง 161.3 ×74.2 × 7.48 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 172 กรัม
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400×1080 พิกเซล) ให้ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 600nits ในอัตราส่วนของจอ 20:9 ผ่านการรองรับจาก TÜV สถาบันรับรองความปลอดภัยจากประเทศเยอรมันสามารถกรองแสงสีฟ้าได้ และยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยถนอมสายตาจากการใช้งานในสภาวะแสงน้อย
- ชิปเซ็ต Snapdragon 720G ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร มาพร้อมรองรับฟังก์ชัน Ultra Game Mode ความเร็วสูงสุด 2.3GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 618
- RAM 8 GB แบบ LPDDR4X
- ROM 128GB แบบ UFS 2.1
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89 มาพร้อมกับระบบ PDAF + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ที่สามารถถ่ายมุมมองได้กว้าง 120 องศา ที่สามารถถ่ายแบบ Macro และ Bokeh ได้ + เลนส์ Mono ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สำหรับถ่ายภาพด้วยเอฟเฟกต์ขาว-ดำ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ Eye Autofocus ที่สามารถจับโฟกัสดวงตาของคุณได้ ไม่ว่าจะไปที่ใดหรืออยู่ในโหมดอารมณ์ไหน ยังมีไฟแฟลช Dual-LED
- กล้องด้านหน้า ให้ความละเอียด 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มาพร้อมกับ Eye Autofocus เหมือนกับกล้องหลังและมีโหมด Super Night Selfie, Selfie Softlight Band และอื่นๆ อีกมากมาย
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- รองรับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
- แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 2.0 แบบ 33 วัตต์ สามารถชาร์จเต็ม 65% ภายในระยะเวลา 30 นาที
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11
- รองรับพอร์ต USB Type-C 2.0
- รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz + 5GHz
- รองรับ Bluetooth 5.1
- พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11
- แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 2.0 ที่ 33 วัตต์
- มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Sunset Melody, สี Midnight Jazz และสี Moonlight Sonata

อุปกรณ์ภายในกล่องวีโว่ V20
- ตัวเครื่อง Vivo V20 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์
- สายชาร์จ USB Type-C
- หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- เข็มจิ้มซิม
- เคสซิลิโคนแบบใส
- ใบรับประกันสินค้าและคู่มือการใช้งาน

การดีไซน์ตัวเครื่องที่บางเฉียบ หรูหรา ไม่แพ้รุ่น Pro ถือไปไหนมาไหนก็สะดวก ขนาดกะทัดรัดแถมน้ำหนักก็เบาอีกต่างหาก
ก่อนเข้าเรื่องทุกครั้งถ้าเราไม่พูดถึงเรื่องการดีไซน์เราจะข้ามไปสเปกเลยก็ไม่ได้ ฮ่าๆ ซึ่งตัวเครื่องที่เรามารีวิวนั้นเป็นสี Sunset Melody และการดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นก็คล้ายกับรุ่น Pro ซะเหลือเกิน ที่ทางวีโว่เองเคลมว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เบาและบางเฉียบที่สุด การดีไซน์นั้นทำออกมาได้เป็นอย่างดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนคู่แข่งรุ่นอื่นๆ เลย ในระดับราคาเดียวกัน ซึ่งวีโว่ V20 นี้เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ถอดคุณสมบัติเด่นๆ มาจากรุ่น Pro เกือบจะทั้งหมด แต่ลดสเปกลงมาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับมากและรองรับเฉพาะการใช้งาน 4G LTE เท่านั้น โดยจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ฝาหลังของวีโว่ V20 ที่เป็นแบบด้านโดยใช้วัสดุจากเทคโนโลยี AG Matte Glass หรือเรียกอีกอย่างว่ากระจกพ่นทราย แบบรุ่น Pro ที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนทุกครั้งเมื่อจับและมีความสวย หรูหรา แถมพื้นผิวนั้นยังทนต่อรอยขีดข่วนอีกด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AF (Anti Fingerprint) ที่ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือเมื่อเวลาเราทัชสกรีน ซึ่งก็ดูมีความหรูหราไม่แพ้กับรุ่น Pro เลย

การออกแบบตัวเครื่องเป็นไปตามหลัก Ergonomics ทำให้ตัวเครื่องนั้นสอดเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี สามารถถือจับได้อย่างสะดวกสบาย
รวมถึงขนาดของตัวเครื่องที่ทาง Vivo ได้เคลมว่าเป็นเครื่องที่บางที่สุดในโลกด้วยขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ ขนาดของตัวเครื่อง 161.3 ×74.2 × 7.48 มิลลิเมตรและมีความบาง 7.48 มิลลิเมตร ซึ่งความบางของตัวเครื่องนั้นก็มากกว่ารุ่น Pro อยู่นิดเดียวเอง (ความบางรุ่น Pro อยู่ที่ 7.39 มิลลิเมตร) ซึ่งตัวเครื่องนั้นได้รับการออกแบบมาที่ให้ความรู้สึกถึงความหรูหราและพรีเมียมอยู่พอสมควรไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลังของตัวเครื่องก็ตามแต่ ที่แน่ๆ คือถือไปไหนก็เหมือนของแพงและการดีไซน์นั้นก็ไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกับอย่างแน่นอน แถมยังออกแบบตามหลัก Ergonomics ที่ทำให้ตัวเครื่องนั้นสอดเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี ที่สามารถถือจับได้อย่างสะดวกสบาย ขนาดตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ช่วยให้การพกพานั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกและคล่องตัวมากขึ้นกว่าที่เคย

สีสันของตัวเครื่องของรุ่นนี้ ชวนให้นึกถึงบรรยากาศที่ชายหาดยามพระอาทิตย์ตก ได้มีการผสานความสวยงามได้อย่างลงตัวที่มาในแบบ 2 โทนสี เข้ากับวัสดุพรีเมียมด้วยกระจกของฝาหลังและของเฟรมอะลูมิเนียม ซึ่งเมื่อแสงตกกระทบกับผิวสัมผัสของตัวเครื่องแล้วล่ะก็…ตัวเครื่องก็จะทำการเปลี่ยนสีไปเลยให้มีความนุ่มนวล ซึ่งการออกแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติและมีเรื่องเล่าจากการหล่อหลอมศิลปะ เทรนด์และความคลาสสิกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อแสดงถึงความงามอย่างเป็นธรรมชาติ
พร้อมทั้งการออกแบบกล้องหลังนั้นยังสร้างความโดดเด่นด้วยการจัดวางเป็นชั้นบางๆ อย่างเป็นระเบียบ ที่เป็นการสร้างเลเยอร์ที่เพิ่มขึ้นของแต่ละชั้นได้อย่างประณีต โดยขั้นแรกเป็นสีดำแบบคลาสสิกที่บรรจุตัวกล้องไว้และขั้นที่ 2 คือ ฐานกรอบตกแต่งโดยรอบที่มีสีกลมกลืนกับฝาครอบ
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมล์ตัดเสียงรบกวนและทำหน้าที่ในการบันทึกเสียง ส่วนด้านล่วงของตัวเครื่อง มีลำโพงหลัก, พอร์ต USB-C, ไมค์สนทนาและพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร สำหรับฟังเพลงหรือใช้หูฟังเป็นสมอลทอร์คก็ได้เช่นกัน และด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดซิมการ์ดนั้นเป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM 2 ซิม และ MicroSD Card สูงสุด 256GB อีก 1 ตัวได้พร้อมกัน




หน้าจอขนาดใหญ่ ถึงแม้จะไม่ใช่ Pro แต่ก็ดูหนัง-เล่นเกมได้อย่างเต็มตา เต็มจอ ด้วยหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว
ส่วนด้านหน้านั้นมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล AMLOED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ที่ให้สีสันสดใสด้วยค่าครอนทราสต์ 2,000,000:1 ที่ทำให้เราสามารถดูหนังหรือจะเล่นเกมได้อย่างคมชัดตระการตา และให้ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 600nits ในอัตราส่วนของจอ 20:9 ผ่านการรองรับจาก TÜV สถาบันรับรองความปลอดภัยจากประเทศเยอรมันสามารถกรองแสงสีฟ้าได้ และยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยถนอมสายตาจากการใช้งานในสภาวะแสงน้อยและรองรับ HDR10 รวมถึงหน้าจอนั้นเป็นทรงหยดน้ำสำหรับวางกล้องเซลฟี่ที่ให้ความละเอียด 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ขอบอกเลยว่าการถ่ายภาพกล้องหน้านั้นเด็ดจริง ถ่ายมุมไหนก็สวย เรื่องนี้เดี๋ยวเรามารีวิวกันอีกทีว่าการถ่ายภาพจากกล้องหน้านั้นจะสวยและคมชัดมากขนาดไหน

ซึ่งทรงหยดน้ำที่อยู่บนหน้าจอแสดงผล Vivo V20 นั้นได้รับการออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยการจัดวางเลย์เอาท์ไว้ใน Notch หรือรอยบากรูปทรงหยดน้ำขนาดเล็กได้อย่างลงตัว ซึ่งถ้าถามว่ารอยบากทรงหยดน้ำนั้นทำให้รำคาญสายตาในขณะที่ใช้งาน, ดูหนังหรือเล่นเกมหรือไม่ บอกเลยไม่นะ!! เพราะทาง Vivo เองก็น่าจะคำนึงถึงเรื่องการใช้งานบนหน้าจอแสดงผลมาในระดับหนึ่งแล้วล่ะ….เมื่อใช้งานจริงๆ แล้วก็ไม่ได้รบกวนสายตาแต่อย่างใด และยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยมอีกต่างหากที่ให้ความละเอียดของกล้องอยู่ที่ 44 ล้านพิกเซลและมาพร้อมกับโหมดโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่สามารถจับโฟกัสได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าจะถ่ายไกลแค่ไหนก็ตามแต่ก็ยังมีความคมชัดอยู่ดีโดยที่ไม่เสียรายละเอียดเลยและมีระบบ Eye Autofocus สามารถจับโฟกัสดวงตาของคุณได้ ไม่ว่าจะไปที่ใดหรืออยู่ในโหมดอารมณ์ไหนและสามารถถ่ายภาพในระยะใกล้สุดถึง 15 เซนติเมตร

จุดเด่นที่น่าสนใจ
- Vivo V20 เป็นตัวเครื่องที่บางที่สุดในโลกด้วยขนาดตัวเครื่อง 161.3 ×74.2 × 7.48 มิลลิเมตรและมีความบางอยู่ที่ 7.48 มิลลิเมตร หน้าจอหน้าด้านแบบขอบโค้ง ซึ่งเมื่อเวลาที่สัมผัสหรือถือจับนั้นทำให้รู้สึกถึงความบางของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้
- ฝาหลังของตัวเครื่องนั้นใช้วัสดุจากเทคโนโลยี AG Matte Glass หรือเรียกอีกอย่างว่ากระจกพ่นทราย ที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนทุกครั้งเมื่อจับและมีความสวย หรูหรา แถมพื้นผิวนั้นยังทนต่อรอยขีดข่วนอีกด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AF ที่ช่วยป้องกันสมาร์ทโฟนของเราจากรอยนิ้วมือ

- ตัวเครื่องได้รับการออกแบบตามหลัก Ergonomics ที่ทำให้ตัวเครื่องนั้นสอดเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี ที่สามารถถือจับได้อย่างสะดวกสบาย ขนาดตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ช่วยให้การพกพานั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกและคล่องตัวมากขึ้นกว่าที่เคย
- มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.44 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz ความละเอียด Full HD+ (2400×1080 พิกเซล) และมีคอนทราสท์สูงถึง 2,000,000:1 และมีอัตราส่วนของจอ 20:9 เป็นจอที่สวยสดใสและให้ความคมชัดมากที่สามารถเล่น HDR บน YouTube ได้อย่างสบายๆ เลยแหละ

- กล้องหน้าคู่ที่มาพร้อมกับโหมดโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่สามารถตรวจจับโฟกัสจากระยะถ่าย 15 เซนติเมตร ถึงจุดที่ไกลที่สุดได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะถ่ายในระยะใกล้หรือจะใช้ไม้เซลฟี่ระยะไกลแค่ไหนก็ตามแต่ ก็สามารถถ่ายเซลฟี่ได้อย่างสบายๆ และมีความคมชัดมากที่สุด
- กล้องหลัง 3 ตัว ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89 มาพร้อมกับระบบ PDAF + เลนส์ Super Wide-Angle ที่สามารถถ่ายมุมมองได้กว้าง 120 องศา ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ Eye Autofocus ที่สามารถจับโฟกัสดวงตาของคุณได้ ไม่ว่าจะไปที่ใดหรืออยู่ในโหมดอารมณ์ไหน ยังมีไฟแฟลช Dual-LED

- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ที่ได้รับการอัปเกรดตัวเซ็นเซอร์ใหม่แบบ 3 ชิ้นเลนส์ ทำให้การทำงานนั้นมความรวดเร็วและแม่นยำมากกว่าเดิม รวมถึงยังสามารถบันทึกลายนิ้วมือสูงสุดได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ
- รองรับสแกนใบหน้า ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 8 รูปแบบ และมีความรวดเร็วแม่นยำไม่แพ้กับการสแกนลายนิ้วมือเลย ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงน้อยก็ตามแต่หรืออยู่ในที่มืดก็ไม่มีปัญหาสามารถสแกนใบหน้าได้ตามปกติ
- แบตเตอรี่ที่มีความจุ 4,000 mAh ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน แถมยังมีระบบชาร์จเร็วด้วยเทคโนโลยี Vivo FlashCharge 2.0 ที่ 33 วัตต์ ที่สามารถชาร์จจาก 0-65% ภายในระยะเวลา 30 นาที พร้อมทั้งยังมีระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 9 ชั้นอีกด้วย ถือว่าการชาร์จเร็วนั้นมีความปลอดภัยในระดับหนึ่งและน่าประทับใจมาก
ประสิทธิภาพการใช้งานบนวีโว่ V20
Vivo V20 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm SM7125 Snapdragon 720G ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 2.3GHz ถึงแม้ว่าจะเป็นชิปเซ็ตระดับกลางแต่ก็มีความลื่นไหลอยู่พอตัวเลยนะ ใช้ GPU Adreno 618 มาพร้อมกับ RAM 8GB แบบ LPDDR4X ที่สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกประเภทได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกมหรือจะถ่ายรูปก็ตามแต่ ซึ่งสามารถรีดประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพ เรียกได้ว่าเร็ว แรงและประหยัดพลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับชิปเซ็ต Snapdragon 6xx ส่วนเรื่องความแรงนั้นอยู่ในระดับพอใช้ได้เลยแหละ ที่สามารถใช้งานทั่วไปและเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ ได้อย่างสบายๆ และ ROM 128GB แบบ UFS 2.1 สำหรับติดตั้งแอปพลิเคชั่น เก็บรูปภาพม คลิปวีดีโอและเก็บไฟล์ต่างๆ ได้อย่างเพียงพอ

ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่มีความลื่นไหลในทุกการเข้าเกม ไร้การกระตุกให้ต้องรำคาญใจ มาพร้อมกับ Ultra Game Mode
สำหรับการเล่นเกมบนวีโว่ V20 นั้นจะมีโหมด Ultra Game Mode ซึ่งเป็นฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมของ Vivo ที่นอกจากจะปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งแจ้งเตือน SMS, แอปพลิเคชั่นและการโทรเข้าระหว่างการเล่นเกมได้แล้ว ยังสามารถตั้งค่าการสั่นและคุณภาพเสียงเอฟเฟกต์ในเกมได้อีกด้วย รวมถึงยังโหมด E-Sport ที่สามารถใช้ในการแข่งขัน E-Sport โดยจะปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ, ปิดเกสเจอร์ (Gesture) ท่าทางและล็อคความสว่างของหน้าจอ เพื่อให้การเล่นเกมนั้นถูกรบกวนน้อยที่สุด รวมถึงป้องกันการสัมผัสของหน้าจอโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อการควบคุมที่แม่นยำ ไม่หลุดออกจากเกมกลางคัน

ซึ่งการทดสอบการเล่นเกมบนวีโว่ V20 นั้น เมื่อปรับตั้งค่ากราฟิกให้ได้คุณภาพสูง ก็ไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดแต่อย่างใด สามารถสัมผัสความเร็ว แรง และลื่นไหลได้เป็นอย่างดีในขณะที่แข่งขันในเกม รวมถึงยังสามารถปรับตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ HD และเฟรมเรทระดับสูง ก็ยังสามารถเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องและมีความลื่นไหลอยู่ โดยไม่พบการกระตุกในเกมให้เราต้องเสียอารมณ์เลย

กล้อง 3 ตัวแบบขั้นเทพ มีระบบ Eye Autofocus สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัดและสวยงาม แถมรองรับการถ่ายภาพกลางคืน Super Night Mode ได้โหดมาก
กล้องหลัง 3 ตัวถือว่าเป็นไฮไลท์ของวีโว่ V20 เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือกลางคืน รูปภาพที่ได้มาก็มีความสวยงามและคมชัดมาก ซึ่งทาง Vivo เองก็สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี แถมกล้องหลังนั้นยังมีระบบ AI ระบุฉากที่จะวิเคราะห์และแต่งรูปให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติและรองรับการถ่ายรูปแบบครบทุกมุม

ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ Ultra-wide แบบมุมกว้างที่สามารถเก็บภาพได้ครบทุกชัตเตอร์, เลนส์ Macro ที่สามารถถ่ายภาพ ในระยะใกล้สุด 2.5 เซนติเมตรได้อย่างคมชัดและถ่ายภาพแบบ Bokeh หน้าชัด-หลังเบลอก็ยังได้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ, วัตถุ เราก็สามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ตามที่ต้องการ

เห็นไหมล่ะการถ่ายภาพที่ทาง Vivo ยัดมาให้ถือว่าคุ้มอยู่นะจ๊ะ ในราคา 11,999 บาท พร้อมทั้งยังมีลูกเล่นอีกมากมายให้เราได้เลือกใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นโหมด Beauty ที่สามารถปรับแต่งภาพได้อย่างละเอียดและยังมีโหมดกลางคืน Super Night Mode ที่สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้โหดมาก
โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89 มาพร้อมกับระบบ PDAF + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ที่สามารถถ่ายมุมมองได้กว้าง 120 องศา ที่สามารถถ่ายแบบ Macro ในระยะใกล้สุด 2.5 เซนติเมตร และ Bokeh ได้ + เลนส์ Mono ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สำหรับถ่ายภาพด้วยเอฟเฟกต์ขาว-ดำ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ Eye Autofocus ที่สามารถจับโฟกัสดวงตาของคุณได้ ไม่ว่าจะไปที่ใดหรืออยู่ในโหมดอารมณ์ไหน ยังมีไฟแฟลช Dual-LED









จากที่ทดสอบกล้องหลังนั้น มีความประทับใจมาก เพราะเนื่องจากภาพที่ถ่ายออกมานั้นให้ความสดใสและความคมชัดเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะถ่ายในพื้นที่ที่มีแสงน้อยก็ตามแต่ก็สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี โดยภาพที่ถ่ายออกมานั้นก็ไม่เสียรายละเอียดหรือภาพแตกที่อย่างใด แต่ถ้าหากถ่ายในพื้นที่ที่มีแสงน้อยมากๆ ถึงมากที่สุดก็สามารถเปิด Night Mode เข้ามาในการถ่ายภาพ เพื่อเพิ่มความสว่างของภาพให้ดูสว่างมากขึ้นจากเดิม
ทดสอบถ่ายภาพด้วยเลนส์ Ultra-wide สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา เก็บภาพได้ครบทุกละเอียด โดยไม่มีตกหล่น
เลนส์ Ultra-wide ของ Vivo V20 ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ที่สามารถถ่ายมุมมองได้กว้าง 120 องศา ซึ่งสามารถเก็บภาพและบรรยากาศได้อย่างครบถ้วน แถมยังให้ภาพที่ถ่ายออกมานั้นมีความคมชัดและสวยงามอีกต่างหาก
หลังจากที่ได้ทดสอบถ่ายภาพด้วยเลนส์ Ultra-wide นั้นก็สามารถถ่ายภาพได้กว้างแบบสะใจซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะถ่ายภาพแบบหมู่คณะหรือจะถ่ายภาพวิวก็สามารถเก็บภาพได้อย่างครบถ้วน และทาง Vivo ก็ได้แก้ไขความบิดเบือนของภาพให้เรียบร้อยแล้วด้วย ทำให้ขอบของภาพนั้นไม่ดูโค้งนะจ๊ะ


แถมเลนส์นี้ยังสามารถถ่ายแบบ Macro ได้ในระยะใกล้ถึง 2.5 เซนติเมตรได้อีกด้วย ที่สามารถเก็บรายละเอียดของวัตถุชิ้นเล็กๆ ได้อย่างดี ที่ให้ความชัดเจนและเห็นรายละเอียดของภาพ ส่วนเลนส์ Macro นั้นจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกมากขึ้นไปอีกและมีประโยชน์ในการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน



ทดสอบถ่ายภาพด้วย Super Night Mode ที่สามารถเก็บภาพได้อย่างสวยงามและคมชัด มาพร้อมฟีเจอร์ AI noise cancellation
ในส่วนของการถ่ายภาพในตอนกลางคืนสำหรับ Vivo V20 นั้นสร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะแชะถ่ายภาพในพื้นที่ที่มีแสงน้อยก็ตามแต่ การถ่ายภาพนั้นก็ยังคงให้ความสว่างและมีความชัดเจนอยู่โดยไม่ต้องใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้องแต่อย่างใด โดยจะใช้เวลาในการประมวลผลของภาพนานขึ้นเล็กน้อย แต่เราก็ต้องถือสมาร์ทโฟนไว้ในมือนิ่งๆ เพื่อที่ไม่ให้ภาพที่ถ่ายออกมาเบลอ และเมื่อภาพประมวลผลเสร็จแล้ว รูปภาพที่ได้ออกมานั้นก็มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างปิดและเปิดโหมดถ่ายภาพกลางคืน Super Night Mode



และมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI noise cancellation เพื่อลดสัญญาณรบกวนหรือการเกินอยส์ของภาพและ Sky Divider จะช่วยให้การถ่ายภาพท้องฟ้าในยามค่ำคืนนั้นให้มีความสวยงามและคมชัดดูเป็นธรรมชาติ
เปรียบเทียบระหว่างปิด-เปิดโหมดกลางคืนในขณะที่ถ่ายภาพ


เมื่อเราเปิดโหมด Super Night Mode ภาพที่ถ่ายออกมานั้นก็ยังให้ความชัดเจนและละเอียดมากขึ้น แถมยังมีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ถ่ายภาพด้วยนะจ๊ะ ซึ่งก็ถือว่ายังเป็นอันดับต้นๆ ในสมาร์ทโฟนราคาเดียวกันที่สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนที่สวยงดงามที่สุด แถมยังมีฟิลเตอร์สำหรับการถ่ายภาพกลางคืนให้ใช้ถึง 4 แบบ อย่าง Black & gold, Blue ice, Green orange และ Cyberpunk ที่จะช่วยให้ภาพถ่ายนั้นมีความสนใจมากยิ่งขึ้นเหมือนกับรุ่น Pro


ถึงจะมีกล้องหน้าตัวเดียวแต่ก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงาม โดยไม่ต้องพึ่งแอปแต่งภาพเลย ให้ความละเอียด 44 ล้านพิกเซล และมีระบบ Eye Autofocus ทำให้ใบหน้าชัดเจน
กล้องด้านหน้า ให้ความละเอียด 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มาพร้อมกับ Eye Autofocus เหมือนกับกล้องหลังที่จับโฟกัสบริเวณดวงตาของเราโดยอัตโนมัติ ทำให้ใบหน้าชัดเจนเสมอ ไม่หลุดโฟกัส พร้อมทั้งยังมีฟิลเตอร์ที่หลากหลายรูปแบบให้ใช้งาน รวมไปถึงเอฟเฟกต์แสงภาพถ่ายบุคคลที่เพิ่มลูกเล่นให้กับการเซลฟี่ แถมยังมีโหมดกลางคืนสำหรับเซลฟี่ Super Night Selfie ไม่ว่าจะถ่ายในพื้นที่ที่มีแสงน้อยหรือถ่ายเวลากลางคืนได้อย่างคมชัด โดยไม่ต้องใช้แฟลช โดย AI Night Selfie และ Face Beauty จะช่วยในการปรับแสงสว่างบนใบหน้า


ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ กล้องหน้า Vivo V20 นั้นยังมีทีเด็ดอีกหนึ่งสิ่งที่เหล่าผู้หญิงอย่างเรานั้นต้องชอบแน่นอน คือ Beauty Mode ที่สามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการปรับผิวให้ขาวขึ้น, ปรับให้ผิวนวลขึ้น, ปรับใบหน้าให้มีความเรียวและปรับแต่งภาพรวมของโครงสร้างใบหน้า เช่น กราม, ดวงตา, จมูกและปาก เป็นต้น ซึ่งโหมดนี้จะทำให้ผู้ใช้งานนั้นสนุกไปกับการถ่ายภาพเซลฟี่และยังให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจกับผู้ใช้งานมากที่สุด
การถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K รองรับระบบกันสั่น Ultra Stable และมีโหมด Movie Camera สามารถ่ายวีดีโอในมุมกว้างและเบลอฉากหลังได้สไตล์ภาพยนตร์
การถ่ายวีดีโอสามารถถ่ายได้ในระดับ 4K และมาพร้อมกับระบบกันสั่น Ultra Stable ที่จะช่วยให้การถ่ายวีดีโอนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายไปเลย ทั้งให้ความนิ่งและความเนียน โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเข้ามาในการถ่าย รวมไปถึง Ultra Stable นั้นยังไม่ทำให้คุณภาพของไฟล์นั้นดรอปลงไปมากนัก

ส่วนในโหมด Movie Camera นั้นเป็นอีกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยโหมดนี้จะอาศัยความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เอามา Crop ให้เราจิ้มเลือกได้เลยว่าจะแพนกล้องไปมุมไหน โดยจะมีระบบ Smart Zoom ที่จะทำหน้าที่ในการเกาะติดคนหรือวัตถุที่อยู่ในเฟรมตลอดเวลา แม้ว่าเราจะขยับตัวกล้องก็ตามแต่
นอกจากนี้การถ่ายวีดีโอนั้นยังสามารถถ่ายพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกันอีกด้วย Dual View VDO ซึ่งรุ่นนี้บอกได้คำเดียวเลยว่าความน่าสนใจนั้นไม่แพ้รุ่น Pro เลยแหละ ที่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้การแบ่งครึ่ง Split หน้าจอหรือจะทำเป็นหน้าต่าง PIP เล็กๆ และยังสามารถเลือกจับคู่กล้องได้อีกด้วย
- กล้องหน้า + กล้องหลัง
- กล้องหน้า + กล้องหลังมุมกว้า
- กล้องหลัง + กล้องหลังมุมกว้าง
ระบบประมวลผลและหน่วยความจำภายใน
วีโว่ V20 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 720G ของ Qualcomm แบบ octa-core ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 2.3GHz ที่ได้รับการปรับปรุง CPU ให้เร็วขึ้น 20% และ GPU Adreno 168 ก็ได้รับการปรับปรุงให้เร็วขึ้น 14% พร้อมทั้งยังลดพลังงานลงไปอีก 44% และมีประสิทธิภาพ AIE เพิ่มขึ้นอีก 115% ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดช่วยให้เรานั้นสามารถใช้งานกับการเชื่อมต่อโดยที่ไม่มีสะดุดหรือกระตุกแต่อย่างใด

และเมื่อทำงานร่วมกับ RAM 8GB แบบ LPDDR4X ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็ฒศักยภาพ เรียกได้ว่าเร็ว แรงและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นกว่าเดิม และ ROM 128GB แบบ UFS 2.1 ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ที่สามารถเก็บรูปภาพ, คลิปวีดีโอและแอปพลิเคชั่นได้อย่างเพียงพอ
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ชิปเซ็ตที่แรงที่สุด แต่ด้วย Snapdragon 720G ก็มีประสิทธิภาพแรงตอบโจทย์การใช้งานในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้งานทั่วไป, ดูคลิปวีดีโอหรือจะเล่นเกมก็สามารถปรับความละเอียดได้สูงไม่แพ้กับชิปเซ็ตในระดับเรือธงเลย
แถมยังเล่นเกมใหม่ๆ บน Play Store ได้อย่างราบรื่น มีการตอบสนองว่องไวติดมือ ซึ่งโดยรวมแล้วก็น่าพอใจ อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ที่ให้ภาพนั้นมีสีสันที่สดใสและขนาดก็กำลังพอดี สามารถเล่นเกมและดูหนังได้อย่างเพลิดเพลิน

ส่วนแบตเตอรี่ก็ให้มาถึง 4,000 mAh ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันได้อย่างสบายๆ และมาพร้อมกับการชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 2.0 ที่ 33 วัตต์ ที่จะช่วยร่นระยะเวลาในชาร์จได้มากขึ้น ที่สามารคชาร์จได้ 0-65% ภายในระยะเวลา 30 นาที
ตัวเครื่องบาง แต่ยัดแบตเตอรี่มาถึง 4,000 mAh และรองรับชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 2.0 สูงสุด 33 วัตต์ สามารถชาร์จเต็ม 65% ภายใน 30 นาที
ถึงแม้ว่าตัวเครื่อง Vivo V20 จะบางเฉียบ (7.38 มิลลิเมตร) แค่ไหนก็ตาม แต่ความจุแบตเตอรี่ก็ให้มาถึง 4,000 mAh ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันได้อย่างสบายๆ แถมยังมาพร้อมกับการชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 2.0 สูงสุด 33 วัตต์ ที่จะช่วยร่นระยะเวลาในชาร์จได้มากขึ้น และสามารถชาร์จได้ 0-65% ภายในระยะเวลา 30 นาที (แต่ภายในกล่องแถมที่ชาร์จ Vivo FlashCharge 2.0 (11V, 3A))

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของวีโว่ V20 ด้วยแอป GeekBench 5
Vivo V20 ได้ทดสอบประสิทธิภาพโดย GeekBench 5 สำหรับคะแนน Single core ได้ที่ 554 คะแนน ในขณะที่ Multi core นั้นได้ 1,698 คะแนน ซึ่งเมื่อดูจากคะแนนแล้วก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก แต่ก็ไม่น้อยนะ โดยการสัมผัสของหน้าจอ, การเล่นเกมและการใช้งานก็ถือว่ามีการสัมผัสที่ตอบสนองไวมากเลยทีเดียวเชียวแหละ

การใช้งาน GPS ระบบนำทาง จับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของการใช้งานระบบนำทางหรือ GPS นั้น Vivo ก็สามารถทำออกมาได้ดี ซึ่งจากการที่ได้ทดลองใช้ระบบนำทางบน Vivo V20 แล้วนั้นก็สามารถทำผลงานออกมาได้เป็นอย่างดีและมีความแม่นยำอยู่พอสมควร โดยระบบ GPS นั้นสามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้เป็นอย่างดี โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นได้เลยว่าสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 76 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 3 เมตร

ซึ่งเราก็ทดลองใช้ GPS ในเส้นทางปกติและการใช้งานระบบ GPS นั้นก็ไม่มีปัญหาในการที่จะหลงทิศหลงทางแต่อย่างใด และไร้ความหน่วงอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วยนะจ๊ะ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา
จะคุ้มหรือเปล่านะ ถ้าซื้อวีโว่ V20 ในราคา 11,999 บาท
วีโว่ V20 ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กก็ตาม แต่บอกก่อนเลยว่าตั้งแต่เริ่มได้สัมผัสตัวเครื่อง, ทดลองใช้ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง, ดู YouTube, เล่นเกม หรือแม้กระทั้งถ่ายรูปทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รู้สึกมีความประทับใจอยู่พอสมควร รวมถึงสเปกที่ยัดเข้ามาก็ถือว่าสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีและไม่แพ้รุ่นพี่เลย แถมหน้าจอก็มีขนาดใหญ่ 6.44 นิ้ว ความละเอียดแบบ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ที่ให้สีสันสดใสด้วยค่าครอนทราสต์ 2,000,000:1 ที่ทำให้เราสามารถดูหนังหรือจะเล่นเกมได้อย่างคมชัดตระการตา และให้ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 600nits ในอัตราส่วนของจอ 20:9

ตัวเครื่องนั้นก็มีความเบาและบางเฉียบที่สุด การดีไซน์นั้นทำออกมาได้เป็นอย่างดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนคู่แข่งรุ่นอื่นๆ เลย ในระดับราคาเดียวกัน ซึ่ง Vivo V20 นี้เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ถอดคุณสมบัติเด่นๆ มาจากรุ่น Pro เกือบจะทั้งหมด ด้วยตัวเครื่องนั้นมีขนาดอยู่ที่ 161.3 ×74.2 × 7.48 มิลลิเมตรและมีความบางอยู่ที่ 7.48 มิลลิเมตร ซึ่งความบางของตัวเครื่องนั้นก็มากกว่ารุ่น Pro อยู่นิดเดียวเอง (ความบางรุ่น Pro อยู่ที่ 7.39 มิลลิเมตร) แถมยังออกแบบตามหลัก Ergonomics ที่ทำให้ตัวเครื่องนั้นสอดเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี ที่สามารถถือจับได้อย่างสะดวกสบาย ขนาดตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ช่วยให้การพกพานั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกและคล่องตัวมากขึ้นกว่าที่เคย

ส่วนการดีไซน์ฝาหลังของตัวเครื่องนั้นได้ใช้วัสดุจากเทคโนโลยี AG Matte Glass หรือเรียกอีกอย่างว่ากระจกพ่นทราย ที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนทุกครั้งเมื่อจับและมีความสวย หรูหรา แถมพื้นผิวนั้นยังทนต่อรอยขีดข่วนอีกด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AF ที่ช่วยป้องกันสมาร์ทโฟนของเราจากรอยนิ้วมือ รวมถึงมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และมาพร้อมกับ Eye Autofocus ที่สามารถจับโฟกัสดวงตาของคุณได้ ไม่ว่าจะไปที่ใดหรืออยู่ในโหมดอารมณ์ไหน

และไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือกลางคืน รูปภาพที่ได้มาก็มีความสวยงามและคมชัดมาก ซึ่งทางวีโว่เองก็สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี แถมกล้องหลังนั้นยังมีระบบ AI ระบุฉากที่จะวิเคราะห์และแต่งรูปให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติและรองรับการถ่ายรูปแบบครบทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ Ultra-wide แบบมุมกว้างที่สามารถเก็บภาพได้ครบทุกชัดเตอร์, เลนส์ Macro ที่สามารถถ่ายภาพ ในระยะใกล้สุด 2.5 เซนติเมตรได้อย่างคมชัดและถ่ายภาพแบบ Bokeh หน้าชัด-หลังเบลอก็ยังได้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ, วัตถุ เราก็สามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ตามที่ต้องการ

สำหรับการเล่นเกมบนวีโว่ V20 นั้นจะมีโหมด Ultra Game Mode ซึ่งเป็นฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมของ Vivo ที่นอกจากจะปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งแจ้งเตือน SMS, แอปพลิเคชั่นและการโทรเข้าระหว่างการเล่นเกมได้แล้ว ยังสามารถตั้งค่าการสั่นและคุณภาพเสียงเอฟเฟกต์ในเกมได้อีกด้วย รวมถึงยังโหมด E-Sport ที่สามารถใช้ในการแข่งขัน E-Sport โดยจะปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ, ปิดเกสเจอร์ (Gesture) ท่าทางและล็อคความสว่างของหน้าจอ เพื่อให้การเล่นเกมนั้นถูกรบกวนน้อยที่สุด รวมถึงป้องกันการสัมผัสของหน้าจอโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อการควบคุมที่แม่นยำ ไม่หลุดออกจากเกมกลางคัน รวมถึงแบตเตอรี่นั้นก็มีขนาด 4,000 mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว FlashCharge 2.0 สูงสุด 33 วัตต์ ที่จะช่วยร่นระยะเวลาในชาร์จได้มากขึ้น

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กอย่าง Vivo V20 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจเลยทีเดียว ซึ่งถามว่าคุ้มหรือไม่ ถ้าหากต้องจ่ายในราคาหลักหมื่นที่ 11,999 บาท แต่แลกกับสเปกที่ดี, กล้องถ่ายภาพทั้ง 4 เลนส์ (กล้องหน้า 1 ตัวและกล้องหลัง 3 ตัว) ที่ถ่ายออกมาได้อย่างสวยงาม คมชัดและน่าประทับใจมาก ซึ่งสายเซลฟี่อย่างเราชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก แถมยังมีฟีเจอร์แบบหลากหลายที่ยัดมาให้เราได้เลือกใช้งานได้ตามที่ต้องการ

ส่วนเรื่องการใช้งานนั้นก็สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลได้เป็นอย่างดี ไม่รู้สึกถึงความกระตุกหรือความหน่วงเท่าไหร่ เอาเป็นว่าราคานี้กับสเปกที่ได้มาก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนอีกด้วยแหละ ซึ่งหลายคนก็มักจะชอบไม่เหมือนกัน เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาซื้อสมาร์ทโฟนอยู่หรือกำลังตัดสินใจอยู่ ก็ลองสัมผัสหรือทดลองเล่นกันได้ที่ร้านค้าขายสมาร์ทโฟนกันก่อนเลยจะได้รู้นะจ๊ะ สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อน มือจะล็อคแล้วจ๊ะเขียนยาวเกิน ครั้งหน้าเราจะนำรุ่นไหน แบรนด์ไหนมารีวิวกันต่อต้องห้ามพลาดเด็ดขาดกับพวกเราทีม StepGeek.TV นะคะ สวัสดีค่ะ!!!
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : Vivo