ถึงเวลาเปิดตัวซะทีกับการเปิดตัวของแบรนด์ Vivo อย่าง Vivo X60 Pro+ สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นท็อปสุดในตระกูล X60 Series ที่มีข่าวมานาน ก่อนจะวันปีใหม่ด้วยซ้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดตัว X60 และ X60 Pro ไปเรียบร้อยแล้วในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

แน่นอนว่ารุ่นท็อปสุดที่เรารอคอยกันมานานแสนนาน ได้มาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็ม แบบไม่มีกั๊กเลยแหละ แถมยังมาพร้อมกับอะแดปเตอร์และหูฟังให้ในกล่องแบบฟรีๆ โดยไม่ต้องแยกกล่องให้เราตัดสินใจว่าจะเลือกรับหรือไม่รับ และไม่ต้องหาซื้อเพิ่มเองแต่อย่างใด ซึ่งผู้บริโภคน่าจะพอใจกับสิ่งนี้ เพราะเนื่องจากอุปกรณ์ที่มีให้ในกล่องนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและควรมีให้กับผู้ใช้งาน

Vivo X60 Pro+ มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 120Hz และความไวตอบสนองต่อการสัมผัส 240Hz ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 1300nits รองรับ HDR10+ คอนทราสต์ 6000000:1 และอัตราส่วนของหน้าจอต่อเครื่องอยู่ที่ 92.7% แถมหน้าจอยังได้รับการรับรองจาก SGS Eye Care Display

ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 ของ Qualcomm ขนาด 5 นาโนเมตร รองรับ 5G ในตัว, RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR5, ROM 128GB/256GB แบบ UFS 3.1, แบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 55 วัตต์ ชาร์จผ่านพอร์ต USB-C และรองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OriginOS 1.0


หน้าจอเจาะรูตรงกึ่งกลางบนของหน้าจอแสดงผลสำหรับวางกล้องเซลฟี่ ที่ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 ส่วนกล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็อยู่ที่กล้องหลังเนี๊ยแหละ โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.57 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Samsung GN1 CMOS และยังเป็นกล้องหลักที่มีโครงสร้างแบบนาโนคริสตัลไลน์เป็นรุ่นแรกของโลก แถมยังได้รับการอัปเกรดระบบกันสั่นใช้แบบ 4 แกน

เลนส์ตัวที่ 2 คือ เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IMX598 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 114 องศา + เลนส์ Periscope Telephoto ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0 สามารถซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 60 เท่า + เลนส์ Telephoto ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.1 สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 2 เท่า

ทาง Vivo ได้ร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง ZEISS ผนวกกับเทคโนโลยีกันสั่นแบบ Gimbal ที่ถูกพัฒนามาตั้งแต่รุ่นก่อนจนเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ทำให้กล้องของ Vivo X60 Pro+ นั้นครบเครื่องจริงๆ แถมยังเป็นเรือธงอีก 1 รุ่นที่มีเอกลักษณ์ด้านหลังอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ Vivo X60 Pro+ จะมีทั้งหมด 2 สีให้เลือก โดยการออกแบบตัวเครื่องที่ฝาหลังเป็นแบบหนังที่มีสีส้ม Classic Orange และสี Phantom Blue สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วที่ประเทศจีนจนถึงวันที่ 30 มกราคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5,000 หยวน หรือประมาณ 23,160 บาท

ราคาขาย วีโว่ X60 Pro+
- 8GB + 128GB ราคาอยู่ที่ 5,000 หยวน หรือประมาณ 23,160 บาท
- 12GB + 256GB ราคาอยู่ที่ 6,000 หยวน หรือประมาณ 27,800 บาท
สเปก วีโว่ X60 Pro+
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 120Hz และความไวตอบสนองต่อการสัมผัส 240Hz ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 1300nits รองรับ HDR10+ คอนทราสต์ 6000000:1 และอัตราส่วนของหน้าจอต่อเครื่องอยู่ที่ 92.7%
- ชิปเซ็ต Snapdragon 888 ของ Qualcomm ขนาด 5 นาโนเมตร รองรับ 5G ในตัว
- GPU : Adreno 660
- RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR5
- ROM 128GB/256GB แบบ UFS 3.1
- กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.57 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Samsung GN1 + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IMX598 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 114 องศา + เลนส์ Periscope Telephoto ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0 สามารถซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 60 เท่า + เลนส์ Telephoto ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.1 สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 2 เท่า
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5
- แบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 55 วัตต์ โดยชาร์จผ่านพอร์ต USB-C
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OriginOS 1.0
- รองรับพอร์ต USB-C
- มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีส้ม Classic Orange และสี Phantom Blue
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : gizchina, gsmarena