สวัสดีครับ เมื่อสัปดาห์ก่อนทางทีมงานของเราได้นำเสนอบทความรีวิว Vivo Y31 (2021) กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลายท่านยังมีข้อสงสัยถึงความแตกต่างระหว่าง Vivo Y31 (2021) กับ Vivo Y30 นั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
วันนี้ทางทีมงาน StepGeek.TV ก็เลยจัดทำบทความอธิบายเป็นจุดๆ ไปเลยว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนั้นแตกต่างกันอย่างไร แล้วราคาของรุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นคุ้มค่าหรือไม่ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญทุกท่านรับชมกันได้เลยครับ
สเปก Vivo Y31 (2021)

- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Dazzling 3D Colors ที่ให้ตัวเครื่องมีความสวยงาม บางเบา จับถือได้ง่าย
- ขนาดตัวเครื่อง 163.86×75.32×8.38 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 188 กรัม
- ตัวเครื่องดีไซน์ผิวด้าน แต่สะท้อนเล่นกับแสงได้
- หน้าจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display ความละเอียด 2408X1080 พิกเซล บนขนาด 6.58 นิ้ว
- รองรับเทคโนโลยี Eye Protection Screen ที่ช่วยถนอมสายตาจากการใช้งานในสภาวะแสงน้อย
- ชิปเซ็ต Snapdragon 662 พร้อมรองรับฟังก์ชัน Ultra Game Mode กับ Multi-Turbo 4.0
- หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 610
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB
- หน่วยความจำรอม (ROM) ขนาด 128GB และรองรับการเพิ่มการ์ด microSD ได้มากถึง 1TB
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 (Android 11)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.05 พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ 3 เลนส์ (Triple-Camera) โดยกล้องตัวแรกความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/1.79, กล้องตัวที่สองแบบ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.4 ถ่ายภาพได้ในระยะ 4 เซ็นติเมตร และกล้องตัวที่สามแบบ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.4 นอกจากนี้ ยังมีไฟแฟลช Dual-LED
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง กับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
- มีเอฟเฟกต์เสียง Super Audio ที่เป็นเอกลักษณ์ของ vivo
- แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 18W
- มีให้เลือก 2 สี คือ Racing Black และ Ocean Blue
- ราคา 7,499 บาท
สเปกเครื่องแบบคร่าวๆ ของ Vivo Y30

– ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Dazzling 3D Colors ที่ให้ตัวเครื่องมีความสวยงาม บางเบา จับถือได้ง่าย
– ขนาดตัวเครื่อง 162.04×76.46×9.11 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 197 กรัม
– ตัวเครื่องดีไซน์กระจกมันวาวสะท้อนเล่นกับแสงได้
– หน้าจอแสดงผลแบบ IPS Ultra O Screen ความละเอียด 1560X720 พิกเซล บนขนาด 6.47 นิ้ว
– มีพื้นที่การแสดงผลกว้าง 90.77%
– รองรับเทคโนโลยี Eye Protection Screen ที่ช่วยถนอมสายตาจากการใช้งานในสภาวะแสงน้อย
– ชิปเซ็ต MediaTek Helio P35 พร้อมรองรับฟังก์ชัน Ultra Game Mode 8.0 กับ Multi-Turbo 3.0
– หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ PowerVR GE8320
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
– หน่วยความจำรอม (ROM) ขนาด 128GB
– ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 10 (Android 10)
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.05 พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI
– กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ 4 เลนส์ (Quad-Camera) โดยกล้องตัวแรกความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.2, กล้องตัวที่สองแบบ Super Wide-Angle ที่มีมุมมองกว้าง 120 องศา กับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2, กล้องตัวที่สามแบบ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.4 ถ่ายภาพได้ในระยะ 4 เซ็นติเมตร และกล้องตัวที่สี่แบบ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.4 นอกจากนี้ ยังมีไฟแฟลช Dual-LED
– รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ กับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
– แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมรองรับฟังก์ชัน reverse charging 5V/1A ผ่านสาย OTG
– มีให้เลือก 2 สี คือ Moonstone White และ Dazzle Blue
– ราคา 6,999 บาท
1. ดีไซน์ตัวเครื่อง

สำหรับในเรื่องของดีไซน์ทั้ง 2 รุ่นนั้นจะเหมือนกัน คือ ใช้ดีไซน์ Dazzling 3D Colors ที่เป็นการขึ้นรูปชิ้นงานเดียวกัน โดยมีความโค้งมนทั้ง 4 มุม ช่วยให้ถือใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ เนื่องจากขอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม แต่สิ่งแตกทำให้สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นแตกต่างกันคือ สีสันตัวเครื่อง โดยรุ่น Y30 จะมีสี Moonstone White และ Dazzle Blue ส่วนรุ่น Y31 2021 มีสี Racing Black และ Ocean Blue
2. หน้าจอแสดงผล

ทางด้านหน้าจอแสดงผลตัว Y31 จะมีการอัปเกรดให้ดีขึ้น โดยใช้เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ Halo Fullview พร้อมความชัดที่เพิ่มมากขึ้นเป็นระดับ Full HD+ และขยายพื้นที่หน้าจอเป็นขนาด 6.58 นิ้ว เรียกได้ว่า อัปเกรดดีขึ้นทุกด้านเลยก็ว่าได้
3. ชิปเซ็ตเปลี่ยนมาใช้ Snapdragon 662
นอกจากนี้ Y31 ยังได้อัปเกรดในเรื่องของชิปเซ็ต ซึ่งทาง Vivo ได้เลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 662 มาแทนชิปเซ็ต MediaTek Helio P35 ที่อยู่บน Y30 ซึ่งข้อดีของการที่เลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 662 คือ ทำให้ตอบสนองในเรื่องของการเล่นเกมได้ดีมากกว่า แม้ชิปเซ็ต Snapdragon 662 จะเป็นรุ่นเก่าแล้ว แต่ก็ยังนับว่าตอบนสนองต่อการใช้งานได้ดีมากว่าเดิมอย่างแน่นอน

ซึ่งหากคุณต้องการเป็นเจ้าของ จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเล่นเกม แต่ก็อยากจะให้เข้าใจตรงกันว่าชิปเซ็ต Snapdragon 662 นั้นไม่ได้เน้นเล่นเกมมากนัก เวลาเล่นอาจจะไม่สมูทนั่นเอง
4. กล้องหลังเหลือ 3 เลนส์ แต่ความละเอียดสูงขึ้น!

มาถึงในเรื่องของกล้องดิจิทัลด้านหลังต้องบอกว่าอัปเกรดก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก โดย Y31 ได้ถูกอัปเกรดกล้องหลังมาเป็นความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ทำให้การถ่ายภาพนั้นคมชัดกว่าเดิม และเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นอีกด้วย แต่น่าเสียดายตรงที่ทาง Vivo ถอดเลนส์มุมมองกว้างออก ทำให้รุ่นนี้ไม่สามารถถ่ายภาพมุมมองกว้างได้
5. แบตเตอรี่ขนาดเท่าเดิม แต่มีชาร์จเร็วแล้วนะ
มาถึงจุดสุดท้ายที่จะแนะนำในคอนเทนต์นี่คือเรื่องของแบตเตอรี่ ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่จะมีขนาดเท่าเดิมคือ 5000mAh แต่ทาง Vivo ได้อัปเกรดเพิ่มขึ้นด้วยการใส่ระบบชาร์จเร็วแบบ 18W เข้ามาให้ ซึ่งเรื่องนี้นับว่าว่าเคยมีปัญหาในรุ่นเก่าๆ เนื่องด้วยมีแบตเตอรี่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ค่อนข้างนาน แต่เรื่องนี้ก็หมดปัญหาไปเรียบร้อยแล้ว เพราะระบบชาร์จเร็วที่เพิ่มเข้ามานั้น ช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายต่อการใช้งานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
สรุปส่งท้าย
จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับบทความแนะนำว่า Vivo Y31 (2021) กับ Vivo Y30 นั้นแตกต่างกันเรื่องใดบ้าง ซึ่งทุกท่านคงจะเห็นแล้วว่ามีจุดใดที่แตกต่างกันบ้าง ถึงแม้ว่ารุ่นใหม่จะมีราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 6,999 บาท เป็นราคา 7,499 บาท แต่สิ่งที่เพิ่มมานั้นนับว่าคุ้มค่าไม่น้อย ทั้งหน้าจอดีขึ้น, ชิปเซ็ตดีขึ้น, กล้องดีขึ้น และแบตเตอรี่มีชาร์จเร็ว หากใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีๆ ราคาไม่แรง เน้นใช้งานทั่วไป และเล่นเกมได้บ้าง Vivo Y31 (2021) นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ และทุกท่านสามารถรับชมรีวิวฉบับเต็มของ Vivo Y31 (2021) สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
นำเสนอบทความโดย : Stepgeek.TV