สำหรับคนที่กำลังมองหาซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อยู่ แน่นอนว่าบางคนมักจะมองที่ราคาสมาร์ทโฟนก่อนเป็นอันดับแรก แล้วยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้แล้วล่ะก็…ไม่ต้องพูดถึงเลย ต่างคนต่างก็เก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตกันทั้งนั้น เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่บางคนจำเป็นต้องซื้อสินค้าเพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง อย่างสมาร์ทโฟนที่กำลังจะพูดถึงเนี๊ยแหละ ล่าสุด มีผลโพลล์ออกมาแสดงให้เห็นถึงช่วงราคาที่คนส่วนใหญ่มักจะนิยมจ่ายในราคาที่ 200-600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,400-19,000 บาท เพื่อซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ (ตามรายงานจาก gsmarena ที่ได้เผยไว้)
ตามรายางานได้กล่าวว่า iPhone SE (2020) นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่หลายคนจับตามองด้วยราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12,700 บาท ซึ่งก็เป็นช่วงราคาที่ไม่เกิน 19,000 บาท และเมื่อเข้ามาขายในประเทศไทยแล้วก็มีราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท ที่มาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB ส่วนถ้าอยากจะอัปเกรดเป็น 128GB ก็จะมีราคาอยู่ที่ 16,900 บาทนั่นเอง แถมยังมาพร้อมกบชิปเซ็ตตัวแรงระดับตัวท็อปอย่าง A13 Bionic และสเปกแบบจัดเต็ม
รองลงมาเป็นช่วงราคา 400-600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12,700-19,000 บาท ยกตัวอย่างเช่น Realme X3 SuperZoom ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนกล้องซูมไกลถึงระดับ 60 เท่า หน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1800 พิกเซล และชิปเซ็ตSnapdragon 855+ ของ Qualcomm ที่มีราคาอยู่ที่ 500 ยูโร หรือประมาณ 17,600 บาท ส่วนประเทศไทยขายอยู่ที่ 19,990 บาท (ราคาที่วางขายนั้นจะแตกต่างกันไปของแต่ละประเทศนะจ๊ะ) และในรุ่น POCO F2 Pro ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อ 5G และชิปเซ็ต Snapdragon 865 หน้าจอรีเฟรชเรท 120Hz แถมยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และรองรับการชาร์จเร็ว ด้วยราคาไม่ถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่เกิน 19,000 บาท
นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนที่มีราคาประหยัดนั้นอาจจะมีฮาร์ดแวร์กล้องที่คล้ายคลึงหรือแจจะเหมือนกันกับรุ่นเรือธงที่มีบ้างในบางรุ่น ซึ่งหลายบริษัทก็มักจะพยายามในการปรับแต่งซอฟต์แวร์บนสมาร์ทโฟนให้มีระดับสูง ซึ่งจะส่งผลให้รูปภาพและวีดีโอนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง และสำหรับบางคนที่สนใจซื้อในราคาที่มากกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 31,800 บาท เป็นเพราะเนื่องจากพวกเขาได้สำรองเงินสดเพื่อจะเก็บไว้ซื้อสมาร์ทโฟนในอนาคต
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : gsmarena